ช่วงเที่ยงของวันนี้ (8 ธันวาคม) กลุ่มผู้สนับสนุน เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ นำโดย นราพัฒน์ แก้วทอง ซึ่งเคยมีชื่อเป็นแคนดิเดตลงชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย เดชอิศม์ ขาวทอง, ชัยชนะ เดชเดโช, นริศ ขำนุรักษ์ และ สุรินทร์ ปาลาเร่ รวมถึงสมาชิกที่ให้การสนับสนุนเฉลิมชัย นัดหมายรวมตัวพร้อมให้สัมภาษณ์บริเวณลานพระแม่ธรณีฯ หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์
“วันนี้เราได้เห็นภาพว่าพรรคเรามีปัญหาเรื่องความสมัครสมานสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียว เมื่อวานนี้เราก็ได้เห็นภาพ สส. ลงชื่อสนับสนุนเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป เพื่อนำพาพรรคกลับมาเป็นที่ชื่นชม ชื่นชอบของประชาชน ทำให้พรรคกลับมาอยู่ในความรู้สึกที่ดีของประชาชน” นราพัฒน์กล่าวเริ่มต้นการให้สัมภาษณ์
นราพัฒน์กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสียจุดยืน เพียงแต่มีปัญหาภายในบางอย่าง ขาดความเป็นเอกภาพ ถ้าวันนี้มีผู้นำที่สามารถนำพาประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งเดียว 21 สส. ก็พร้อมสนับสนุน
ขณะที่เดชอิศม์กล่าวว่า สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ 21 เสียงพร้อมสนับสนุนเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ โดยเมื่อวานนี้ (7 ธันวาคม) ก็ได้มีการเปิดให้แต่ละคนแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง
“เราย้อนกลับไปดูการประชุมใหญ่สามัญของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งที่ 1-2 ที่ล่มไป วันนั้นถ้าองค์ประชุมไม่ล่มก็ไม่มีชื่อเฉลิมชัยนั่งหัวหน้าพรรค ป่านนี้เราคงได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นคนอื่นไปแล้ว นั่นแสดงว่าเฉลิมชัยไม่ได้วางแผน ไม่ได้อยากเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วยตัวเอง
“เหตุการณ์วันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเชิญเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อกอบกู้พรรค มาประคองพรรคให้เดินไปข้างหน้าได้ พวกเราทราบดี คนที่ช้ำที่สุดคือเฉลิมชัย เพราะเคยลั่นวาจาว่าจะเลิกการเมือง” เดชอิศม์กล่าว
ด้านชัยชนะกล่าวชื่นชมเฉลิมชัยว่า ตลอดระยะเวลาที่สังกัดได้ทุ่มเททำงานเพื่อพรรค อีกทั้งยังเป็นรัฐมนตรีที่ไม่เคยถูกข้อครหาการทุจริต
“การที่เราจะไปกล่าวว่าใครคนใดคนหนึ่ง ถ้าขึ้นมาบริหารพรรคจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ นั่นคือคุณอยู่ในโลกแห่งความฝัน เพราะเขาไม่ได้บริหารพรรคเต็มตัว
“หวงพรรค เป็นห่วงพรรค กับหวงอำนาจมันต่างกัน วันนี้ผมในฐานะที่เป็นคนเล็กสุด โดยมีเฉลิมชัยเป็นพี่คนโต มีเดชอิศม์เป็นพี่ชายคนที่ 2 และมีผมเป็นน้องชายคนที่ 3 เรา 3 คนรักกัน ไม่ว่าพายุ อุทกภัย ความแปรปรวนจะเข้ามาอย่างไร จะไม่สามารถทำให้จิตใจเราที่เป็นลูกผู้ชายแตกแยกออกจากกันได้”
อย่างไรก็ตาม เฉลิมชัยกล่าวทิ้งท้ายการสัมภาษณ์ว่า ตนเข้าใจความรู้สึกของสมาชิกทุกคน โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะมีความชัดเจนว่าจะเดินหน้าต่อหรืออย่างไร แต่ขอรับรู้ความรู้สึกของเพื่อน สส. ก่อน
“ผมไม่เคยใช้อำนาจ ผมเป็นคนที่ยึดหลักการในประชาธิปัตย์มากที่สุดคนหนึ่ง มีประชาธิปไตยในประชาธิปัตย์มากที่สุดคนหนึ่ง ทุกครั้งผมจะถาม สส. ว่ามีความเห็นอย่างไร ไม่ใช่สั่งไปทำโน่นนี่ ไม่ใช่ผม”