วานนี้ (3 กันยายน) ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, คณะผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว, เยาวชนผู้ได้รับรางวัล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีเชิดชูเกียรติเยาวชนดีเด่นกรุงเทพมหานคร (ประกายเพชร) ครั้งที่ 16 ประจำปี 2564 และครั้งที่ 17 ประจำปี 2565
ชัชชาติกล่าวภายหลังพิธีว่า เยาวชนคืออนาคตของเมือง การเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถในด้านต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และต้องดูว่าเยาวชนต้นแบบแบบนี้ เราจะสามารถขยายผลต่อได้อย่างไร และเป็นกำลังใจให้เยาวชนคนอื่นๆ ที่จะเอาสิ่งดีๆ แบบนี้ไปเป็นต้นแบบด้วย
และต้องดูว่าโรงเรียนจะสามารถจัดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับเด็ก สามารถสร้างบรรยากาศในโรงเรียนหรือสร้างสังคมให้เด็กคิดคอนเทนต์ได้อย่างไรมากกว่า อันนี้เป็นเรื่องท้าทายที่ กทม. ต้องกลับไปคิด เพื่อให้เด็กได้คิดแก้ปัญหา เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของสังคมได้
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า ขอเป็นกำลังใจให้เด็กทุกคน เพราะสุดท้ายแล้ว กทม. ก็ต้องเรียนรู้จากเด็ก เด็กเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเมือง จึงได้บอกให้เด็กมาเป็นส่วนร่วมในการแก้ปัญหาให้เมืองและหาคำตอบ อย่าปล่อยให้ผู้ใหญ่ทำคำตอบแล้วส่งให้เด็ก เพราะถ้าตอนนี้เด็กไม่ได้มาร่วมมือเลย สิ่งที่ได้ก็จะไม่ตรงใจเขา เลยต้องให้เขามาเป็นส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ถามปัญหาเขาแล้วให้เขาคิดทางแก้ ทำให้เกิดประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ มาร่วมเดินไปด้วยกันให้ได้
ชัชชาติกล่าวต่อด้วยว่า เยาวชนคือสิ่งมีค่าที่สุด ต่อไปเยาวชนจะเป็นเจ้าของเมือง ต้องขยายผลให้เด็กกรุงเทพฯ ทั้งหมดดีเด่นในอนาคต โดยเป็นเด็กที่ทั้งเก่งและดี เก่ง คือเก่งด้านวิชาการ สิ่งแวดล้อม สื่อสารมวลชน ดี คือไม่เห็นแก่ตัว เห็นแต่ประโยชน์ส่วนรวม เอาประโยชน์ของสังคมเป็นที่ตั้ง หน้าที่ของผู้บริหาร กทม. ไม่ใช่การทำเมืองให้ตนเองอยู่ แต่เป็นการทำเมืองให้มีคุณภาพ เด็กเรามีความสามารถหลายอย่าง ในอนาคตก็อยากให้มาหาคำตอบร่วมกัน และถึงเวลาแล้วที่เด็กต้องมายึดเมืองคืน เป็น Active Citizen ต้องเก่งและแก้ปัญหาได้
สุดท้ายต้องขอให้น้องๆ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะเชื่อว่าที่มีความสำเร็จในวันนี้มาจากคุณพ่อคุณแม่ที่ช่วยผลักดัน ร่วมเป็นทีมเดียวกันที่จะทำให้เด็กมีคุณภาพ เพราะฉะนั้น กทม. ก็จะเป็นทีมเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ในการสร้างเด็กสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพ
สำหรับโครงการเยาวชนดีเด่นกรุงเทพมหานคร (ประกายเพชร) ทาง กทม. ได้รับสมัครเยาวชนเข้าพิจารณา สรรหา และเชิดชูเกียรติเยาวชนดีเด่นกรุงเทพมหานคร (ประกายเพชร) ประเภทเยาวชน จำนวน 50 คน และกลุ่มบุคคล (ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป) จำนวน 15 กลุ่ม เพื่อเข้ารับรางวัลเยาวชนประกายเพชร เยาวชนประกายเพชรจรัสแสง และกลุ่มเยาวชนประกายเพชร กลุ่มเยาวชนประกายเพชรจรัสแสง
โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะคัดเลือกเยาวชนประกายเพชร และกลุ่มเยาวชนประกายเพชรที่มีผลงานแสดงให้เห็นการพัฒนา มีความคิดสร้างสรรค์จากผลงานเดิมอย่างชัดเจน แบ่งเป็น 10 ด้าน ดังนี้
ด้านกีฬา มีทักษะ ความสามารถ และผลงานที่สร้างชื่อเสียงด้านกีฬา
ด้านนันทนาการ มีทักษะ ความสามารถ เป็นผู้นำในการสร้างสรรค์กิจกรรมสร้างความสุข เพื่อสุขภาพ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม
ด้านศิลปวัฒนธรรม มีความสามารถ การสร้างสรรค์ การอนุรักษ์ และการพัฒนาด้านศิลปวัฒนธรรม
ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีผลงานริเริ่มสร้างสรรค์ในการส่งเสริมการอนุรักษ์ การพัฒนา การป้องกัน และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ด้านพัฒนาเยาวชน มีความสามารถ สนับสนุนในการสร้างสรรค์ผลงานด้านการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในชุมชน
ด้านสื่อสารมวลชน มีความสามารถ สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นการสื่อสารข้อมูลทุกด้านเพื่อประโยชน์ต่อสังคม
ด้านคุณธรรมและจริยธรรม มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการปฏิบัติดีและปฏิบัติชอบตามหลักของศาสนา คุณธรรม และจริยธรรม
ด้านสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม มีความสามารถในการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ผลงานการประดิษฐ์ คิดค้นผลงานใหม่ที่มีคุณค่า หรือเป็นการดัดแปลงจากของเดิมให้ดีขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี มีความสามารถ สร้างสรรค์ผลงานกิจกรรมที่ใช้ทักษะความรู้ความสามารถทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี
ด้านอาชีพ เป็นผู้ที่มีทักษะความรู้ความสามารถในอาชีพที่เกี่ยวกับการหารายได้ที่สุจริตให้ตนเองและครอบครัว ทั้งนี้ ต้องมีการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและไม่เคยได้รับรางวัลนี้มาก่อน
สำหรับรางวัลที่จะได้รับ เยาวชนประกายเพชร และเยาวชนประกายเพชรจรัสแสง ประเภทบุคคล จะได้รับใบประกาศเกียรติบัตร โล่รางวัล และทุนการศึกษาเงินรางวัลละ 3,000 บาท ประเภทกลุ่มเยาวชนประกายเพชร และกลุ่มเยาวชนประกายเพชรจรัสแสง จะได้รับใบประกาศเกียรติบัตร โล่รางวัล และทุนการศึกษาเงินรางวัลละ 5,000 บาท