วันนี้ (23 มิถุนายน) ที่โรงเรียนวิชูทิศ เขตดินแดง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พร้อม ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในสังกัด กทม. ในส่วนของมาตรการพื้นที่ปลอดกัญชง กัญชา และใบกระท่อม
โดยชัชชาติเริ่มต้นการตรวจเยี่ยมด้วยการเข้าไปซื้อกาแฟจากร้านในโครงการฝึกทักษะอาชีพของโรงเรียน ก่อนที่จะเข้าไปชมห้องทำเบเกอรี ชัชชาติได้พูดคุยและสอบถามเด็กนักเรียนที่มารอต้อนรับว่ากัญชา-กัญชงดีไหม นักเรียนตอบว่าไม่ดี และถามต่อว่ารู้จักกระท่อมไหม นักเรียนตอบว่าไม่รู้จัก ชัชชาติจึงแซวว่ากระท่อมอยู่รอบๆ โรงเรียนเลย สุดท้ายได้กำชับว่าห้ามเด็กๆ เข้าไปยุ่งเกี่ยว ให้อยู่ห่าง อย่าให้เข้ามาในโรงเรียน มีอะไรให้บอกคุณครูทันที
จากนั้นชัชชาติพร้อมคณะเดินตรวจร้านอาหารที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน ซึ่งแต่ละร้านมีป้ายแสดงไว้ชัดเจนว่าอาหารร้านนี้ไม่มีส่วนผสมของกัญชง กัญชา และใบกระท่อม ทั้งนี้ ชัชชาติได้กล่าวย้ำว่า ขอให้พ่อค้า-แม่ค้าช่วยดูแลเด็กนักเรียนให้เปรียบเสมือนเป็นบุตรหลานของตัวเอง อย่าให้เด็กยุ่งเกี่ยวกับกัญชา กัญชง หรือสิ่งเสพติด
ชัชชาติกล่าวภายหลังการตรวจโรงเรียนว่า โรงเรียนวิชูทิศถือเป็น 1 ใน 437 โรงเรียนของ กทม. ที่มีนโยบายโรงเรียนปลอดกัญชา กัญชง และกระท่อม ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดเสรีมากขึ้น ทาง กทม. กังวลว่าจะมีผลกระทบในโรงเรียน โดยเฉพาะย่านถนนประชาสงเคราะห์ที่อยู่ติดกับโรงเรียน ซึ่งมีใบกระท่อมขายริมถนนติดกันหลายร้าน การที่สิ่งเหล่านี้รุกเข้ามาใกล้โรงเรียน เด็กๆ อาจมองเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นคุณครูจะต้องให้ความรู้กับนักเรียนถึงพิษภัยว่ามีความร้ายแรง
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า ไม่ได้กังวลเรื่องการเข้าถึงในโรงเรียนมาก เพราะเชื่อว่าสามารถควบคุมได้ แต่กังวลในส่วนของร้านค้านอกโรงเรียน จึงได้มีการประชาสัมพันธ์และนำป้ายไปติด รวมถึงให้ครู ผู้ปกครอง และเทศกิจ คอยสอดส่องรอบๆ โรงเรียนด้วย หากพบการขายของเหล่านี้ให้นักเรียนให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที
“ขอขอบคุณร้านค้าที่ให้ความร่วมมือกับทาง กทม. เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญ กัญชาอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและใช้เฉพาะในกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง แต่อย่าเอานักเรียนมายุ่งเกี่ยว เพราะเป็นกลุ่มที่เปราะบางและยังมีพัฒนาการอีกมาก ซึ่งอาจยังไม่มีวิจารณญาณที่จะเลือกได้ ดังนั้นโรงเรียนต้องทำหน้าที่ในการดูแล” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติกล่าวต่ออีกว่า ความปลอดภัยของนักเรียนไม่ได้มีแค่เรื่องยาเสพติดเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกหลายมิติ โดยเฉพาะเรื่องการเดินทาง จึงต้องเน้นย้ำเรื่องทางม้าลาย การสวมหมวกนิรภัยหากเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ จากข้อมูลพบว่า มีนักเรียนมากกว่า 70% ไม่มีหมวกนิรภัย ขณะนี้ กทม. อยู่ระหว่างการจัดหามามอบให้ใช้ 1.2 แสนใบ โดยจะให้เป็นของส่วนกลางของโรงเรียนและให้เด็กมายืมไปใช้เป็นรอบปีการศึกษา
ด้าน สุพัตรา ฤกษ์บ่าย ผู้อำนวยการโรงเรียนวิชูทิศ กล่าวถึงภาพรวมความร่วมมือพ่อค้า-แม่ค้ารอบนอกโรงเรียนในการไม่นำกัญชาหรือกัญชงมาเป็นส่วนผสมปรุงขายให้กับเด็กว่า มีทั้งหมด 10 ร้านค้า ทั้งหมดเป็นร้านของพ่อ-แม่ ผู้ปกครอง ช่วงแรกอาจไม่เข้าใจ จึงต้องทำความเข้าใจว่าถึงกัญชาและกัญชงจะเสรีแล้ว แต่กับเด็กนักเรียนยังไม่เหมาะสมกับการบริโภค อาจมีผลต่อสมอง ซึ่งพ่อค้า-แม่ค้าก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ เตรียมขยายผลขอความร่วมมือพ่อค้า-แม่ค้าไปถึงบริเวณริมถนนใหญ่ตลอดแนวด้วย ส่วนมาตรการภายในโรงเรียน ขณะนี้เน้นให้ความรู้เรื่องกัญชา-กัญชงกับนักเรียนทุกมิติ สอดแทรกเข้าไปในบทเรียน มีกิจกรรมหน้าเสาธง เสียงตามสาย และติดป้ายนิเทศไว้ตามจุดต่างๆ ยอมรับว่าสิ่งที่กังวลคือเรื่องของพืชกระท่อมที่วางขายอยู่รอบนอกรั้วโรงเรียน แต่ก็ได้ตำรวจและเทศกิจคอยช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้ พร้อมติดป้ายหน้าร้านว่าไม่จำหน่ายพืชกระท่อมให้เด็กนักเรียน
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนวิชูทิศถือว่าอยู่ในจุดสุ่มเสี่ยง เนื่องจากชุมชนโดยรอบเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความหนาแน่นและมีเรื่องยาเสพติดระบาด ซึ่งเด็กๆ อาจพบเห็นเป็นภาพที่คุ้นเคย จนบางคนมองเป็นเรื่องปกติ โรงเรียนจึงมีหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสำคัญที่จะช่วยดูแลให้เด็กห่างไกลและปลอดภัยจากอบายมุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ภายหลังการให้สัมภาษณ์ ชัชชาติได้ถ่ายรูปร่วมกับครูและนักเรียน ซึ่งเด็กๆ ส่งเสียงกรี๊ดให้กับชัชชาติตั้งแต่หัวแถวไปจนท้ายแถว หลายคนขอจับมือและชนหมัดด้วย