วันนี้ (14 กุมภาพันธ์) การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ระหว่างที่ รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ
รังสิมันต์ระบุว่า ขอให้ทุกคนมีสติ อย่าสร้างสถานการณ์ให้น่าหวาดกลัวเกินความเป็นจริง หากจะมีการแก้ไขกฎหมายต้องใช้อย่างโปร่งใสและสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง มิฉะนั้นจะกลายเป็นความขัดแย้งใหม่
รังสิมันต์ได้กล่าวว่า ตอนนี้มีการปลุกปั่นทางโซเชียลมีเดีย ทำร้ายนักเคลื่อนไหว รวมถึงมีบุคคลสำคัญอย่าง ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่พูดถึงการเนรคุณแผ่นดิน เป็นการปลุกปั่นให้สถานการณ์เลวร้ายเกินจริง พร้อมเปิดรูปภาพของชาดาคู่กับกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ก่อนเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า “หากมีการใช้ความรุนแรงโดยไม่ต้องรับผิดชอบนั้น อาจมีการกล่าวหาได้ว่ารัฐบาลคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”
จากนั้นชาดาได้ลุกขึ้นอภิปรายด้วยน้ำเสียงและลีลาอย่างดุเดือดว่า การที่รังสิมันต์ได้นำภาพของตนเองขึ้นมาใช้ในการอภิปรายนั้น เป็นการส่อว่ามีเจตนารมณ์ที่ไม่ดี และสร้างความแตกแยก พร้อมกล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนเองได้อภิปรายเมื่อครั้งที่มีการโหวตนายกรัฐมนตรีในรอบที่ 1 นั้น มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปตัวเองเป็นล้านคน แต่การนำภาพตนเองมาอภิปรายเป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน
ชาดากล่าวว่า ตนเองเสียหายอย่างมาก พร้อมเรียกร้องไปยังประธานสภาว่า อนุญาตให้นำภาพตนเองขึ้นมาใช้ในการอภิปรายได้อย่างไร โดยประธานจะต้องมาขอโทษตนเองเพราะได้ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นกลาง พร้อมชี้แจงอีกว่า ตนเองถ่ายภาพกับทุกคนโดยที่ไม่ทราบว่าบุคคลเหล่านั้นจะนำภาพดังกล่าวไปทำอะไร ยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวข้อง
ชาดากล่าวว่า ญัตติดังกล่าวเป็นการอภิปรายเรื่องความปลอดภัยอารักขาขบวนเสด็จฯ ที่มีการทำร้ายจิตใจประชาชน และมีกี่ครั้งแล้วที่เด็กได้กระทำการผิดกฎหมาย หากเป็นการแสดงออกจากหัวใจนั้นไม่มีปัญหา แต่มีขบวนการที่ต้องการล้มเจ้าและบั่นทอน ซึ่งในความรู้สึกของตนเองนั้นเป็นพฤติกรรมที่เลวทราม
“ผมไม่เคยสร้างความขัดแย้งกับพรรคการเมือง ผมถือว่านักการเมืองทุกคนมีความคิดเห็นต่าง ก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำมือถือสาก ปากถือศีล” ชาดากล่าว
จากนั้น พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ในฐานะประธานการประชุม ได้กล่าวยอมรับว่า ภาพที่รังสิมันต์ได้นำขึ้นสไลด์ในการอภิปรายนั้นตนเองไม่ได้พิจารณาก่อน และหากมีการพาดพิงในลักษณะนั้นตนเองพร้อมที่จะหาคำตอบให้ว่ามีการอนุญาตเรื่องการนำภาพถ่ายดังกล่าวมาใช้ในการอภิปรายได้อย่างไร โดยตนเองอยากให้การอภิปรายครั้งนี้เป็นการเสนอแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และให้อยู่ในประเด็น
ขณะที่รังสิมันต์ได้ชี้แจงอีกว่า การที่ตนเองได้นำภาพไปใช้ในการอภิปรายนั้นได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง โดยที่คิดว่าจะต้องมีการพิจารณาตามระบบ และเป็นอำนาจของประธานสภาที่จะพิจารณาชี้ขาดอีกครั้ง โดยตนเองคิดว่า การนำรูปถ่ายของรัฐมนตรีขึ้นมาอภิปรายนั้นสามารถขึ้นได้อยู่แล้ว เพราะรัฐมนตรีมีสิทธิที่จะชี้แจงในรัฐสภาได้
“ท่านมีสิทธิที่จะชี้แจง และขอให้ใจเย็นๆ เพราะหากมีการฟังการอภิปราย และการขึ้นรูปนั้น เราไม่ได้ปรักปรำว่าท่านจะไปอยู่เบื้องหลัง หลายท่านที่เข้ามาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ขอให้มีสติ เป็นหลักเป็นฐานให้กับบ้านเมืองนี้ เพื่อให้เราได้ผ่านเวลาแห่งความขัดแย้งออกไปให้ได้” รังสิมันต์กล่าว
จากนั้นชาดาได้ลุกขึ้นใช้สิทธิประท้วงกลับทันทีว่า “การกระทำนั้นบ่งบอกถึงเจตนาอย่างชัดเจน และมีการส่อเจตนาที่ไม่ดี และเรื่องดังนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ผมรู้สึกว่าเจตนาของท่านพยายามเชื่อมโยงว่าผมอยู่เบื้องหลัง ถ้าผมอยู่เบื้องหลังจริงจะสนุกกว่านี้ ผมบอกได้เลยครับ ขออย่าให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นในสภาอีก ผมถือว่าท่านไม่ใช้สติในการพิจารณาการกระทำ คนไทยทุกคนรับได้ (ขบวนเสด็จฯ) มีแผ่นดินอยู่ มีแผ่นดินคุ้มกะลาหัว ถ้ารับไม่ได้ไปอยู่ประเทศอื่น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ประมวลความคิดเห็นกรณี ‘ขบวนเสด็จฯ’
- ชาดาชี้ ตะวัน ทะลุวัง บีบแตรใส่ขบวนเสด็จ พฤติกรรมหาเรื่อง-ไม่เหมาะสม เตือนระวังติดคุก