วันนี้ (31 พฤษภาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ที่มี ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท วาระแรก เป็นวันสุดท้าย
ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่าในฐานะที่อยู่ในสภามาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน
ยกตัวอย่างในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก
งบก่อสร้าง มีเครื่องจักร เหล็ก หิน วัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง เพราะไปสู่ชนชั้นกลางและข้างบน ปัจจุบันแรงงานเป็นต่างด้าวทั้งหมด จึงทำให้เกิดปัญหาช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศมากขึ้นเพราะงบของรัฐบาล
รัฐบาลชุดไหนก็โครงสร้างงบประมาณเหมือนกัน สิ่งที่เป็นปัญหากับประเทศคือ กลุ่มทุนเอาไปมาก ธนาคารเอาไปเยอะ ไม่มีคำว่าขาดทุน เรื่องนี้ต้องมาคิดดูให้ดี สิ่งสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่โครงการก่อสร้างอย่างเดียว เพราะมีเรื่องการพัฒนาแรงงานและอีกหลายเรื่อง จึงฝากรัฐบาลทำให้ไปถึง
“ผมยอมรับว่าเมื่อก่อนไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย แต่ปัจจุบันนี้เห็นด้วย ฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีต้องแจก เงินมี ใครที่อยู่ข้างบนแจกไม่ได้ลงมา เอาคนอื่นขึ้นไปนั่ง ถ้าไม่มีปัญญาทำให้นายกฯ ลงมา คนอื่นมีเยอะแยะที่เขาทำได้ ประเทศไทยเงินมีเยอะ ตรงไหนติดขัดก็แก้ซะ ถ้าท่านไม่จัดการเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตให้เรียบร้อย อย่าไปแจกใกล้เลือกตั้ง อย่าว่าแต่เงินหมื่น 20,000 ก็แจกได้ ถ้าไม่แจกเขามาแน่ นายกฯ เท้ง”
ชาดากล่าวต่อว่า วันนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องหลากหลายกว่าในอดีต การใช้เงินต้องไปทั่วถึงทุกกลุ่ม งบประมาณแผ่นดินเปรียบเสมือนถังใหญ่ที่รัฐบาลเก็บปลาจากพี่น้องประชาชนแล้วเอามาใส่ถัง ในถังจะมีรูดูดออกไปในหลายอาชีพ จึงต้องไปให้ทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อไม่ให้มีความเหลื่อมล้ำ
ขณะที่ PM2.5 เกษตรกรเป็นจำเลยตลอดเวลา กรุงเทพฯ ไม่มีอ้อย ไม่มีข้าวสักต้น แต่ทำไม PM2.5 เยอะ หากรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาอยากให้รถหลวงทุกคันใช้เป็นรถไฟฟ้า เพราะค่าเช่าเพิ่มทุกปี รีบเปลี่ยนไม่ได้หรือ หน่วยงานรัฐปล่อยคาร์บอนหนักหนาใน กทม. ทั้งนี้ในต่างจังหวัดรัฐบาลต้องเปิดให้ใช้สถานีชาร์จรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุน เพราะรถไฟฟ้าราคาถูกมาก จะประหยัดน้ำมันและงบประมาณอีกมาก
ส่วนปัญหาในการบริหารงบของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นั้น ขอเรียกว่าคุณพ่อ สทนช. เพราะว่าทำยิ่งใหญ่เหลือเกิน สส. พรรคประชาชนอภิปรายได้ถูกต้อง คนคุมก็ปวดหัว เพราะไม่ใช่แค่งานวิชาการวางมาสเตอร์แพลน คุณกลายเป็นเจ้าของงบประมาณ จะให้ตัวนี้ ไม่ให้ตัวนี้ ต้องอยู่ใน Thai Water Plan เมื่อไม่กี่วันเกิดฝนตกใหญ่ในจังหวัดอุทัยธานี ในอดีตน้ำท่วมจะมาจากแม่น้ำหรือน้ำป่า แต่วันนี้ที่น้ำท่วมมากเป็นพิเศษมาจากฝนเกาะกลุ่มนิ่งๆ นานๆ บางคนอายุ 60 กว่าปียังไม่เคยเจอ เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ท่วมแล้วอยู่นาน จึงอยากฝากถึงรัฐบาลให้เตรียมป้องกันให้ดี