วันนี้ (12 ตุลาคม) ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการควบคุมอาวุธปืนเถื่อนว่า หากพบการครอบครองอาวุธปืนเถื่อนต้องจับกุมอยู่แล้ว โดยอาจจะออกกฎเพิ่มเติมหลังจากนี้ ซึ่งตนยังไม่สามารถตอบรายละเอียดเรื่องนี้ได้ เพราะอยู่ระหว่างการดูข้อระเบียบในเรื่องของ พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 ยอมรับว่าเป็นกฎหมายที่เก่ามาก ควรมีการปรับปรุงแก้ไข แต่ต้องไปว่ากันในระบบของรัฐสภา ทางกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการให้กฎหมายมีความครอบคลุมและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
ชาดากล่าวอีกว่า การควบคุมอาวุธปืนในครั้งนี้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่ง เพราะจะมีมาตรการคุมเข้มยิ่งขึ้น เช่น การซื้อขายกระสุนปืนจะต้องมีใบ ป.3 ด้วย และมีข้อกำหนดว่าจะสามารถถือครองได้กี่นัด อย่างไรก็ตามอาจต้องมีการแก้กฎหมายร่วมด้วย
ส่วนความคืบหน้าในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลนั้น ชาดากล่าวว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ คาดว่าต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะจะรวบรวมรายชื่อจากหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมร่วมด้วย ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ และย้ำว่าตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าจะสามารถส่งรายชื่อได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และมีความกังวลกับจังหวัดนครปฐม เพราะยิงกันบ่อย แต่ก็มีอีกหลายจังหวัดที่จะต้องเข้มงวด
รวมถึงก่อนหน้านี้ที่นายชาดาได้ให้เบอร์ส่วนตัวเพื่อให้ประชาชนติดต่อแจ้งเรื่องได้ ชาดากล่าวว่า วันหนึ่งโทรมาเป็น 100 สาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องความเดือดร้อนจากพฤติกรรมของบุคคลในพื้นที่ มีทั้งเรื่องสำคัญและไม่สำคัญ เรื่องใดที่สามารถดำเนินการได้เลยก็จะดำเนินการให้ ซึ่งทางอธิบดีกรมการปกครองก็จะส่งเรื่องให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจดำเนินการจับกุมต่อไป เช่น บ่อนการพนัน สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที เพราะเป็นความผิดเฉพาะหน้า ไม่ต้องรอรวบรวมรายชื่อ
ชาดายังกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการอนุญาตเปิดสถานบันเทิงถึงช่วงเวลา 04.00 น. และควรทำมานานแล้ว โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตนมองว่า การเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. ไม่ใช่เรื่องอาชญากรรม แต่เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว หลายๆ ประเทศเขาก็เปิดกัน มองว่าเป็นคนละเรื่องกับความมั่นคง แต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมดูแลตลอดเวลาอยู่แล้ว