กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าลงนามสัญญาเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ซึ่งประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าในประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และไอร์แลนด์ รวม 18 แห่ง อสังหาริมทรัพย์ 7 แห่ง และดิจิทัลแพลตฟอร์มทั้งหมด การลงทุนครั้งนี้จะทำให้กลุ่มบริษัทเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรีในรูปแบบ Omni Channel ระดับโลก
กลุ่มเซ็นทรัล ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโรงแรม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ร่วมมือกับซิกน่า หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจห้างสรรพสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ของยุโรป ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อเข้าซื้อกิจการของกลุ่ม Selfridges จากตระกูลเวสตัน ซึ่งประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้ารวมทั้งหมด 18 แห่ง อาทิ ห้างสรรพสินค้า Selfridges บนถนนออกซ์ฟอร์ด ในกรุงลอนดอน, แมนเชสเตอร์ และเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ, ห้างสรรพสินค้า de Bijenkorf ประเทศเนเธอร์แลนด์, ห้างสรรพสินค้า Brown Thomas และ Arnotts ประเทศไอร์แลนด์ โดยการร่วมทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนทั้งในธุรกิจห้างสรรพสินค้า อสังหาริมทรัพย์ และกิจการด้านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั้งหมดอีกด้วย
กลุ่ม Selfridges จะเข้ามาเสริมทัพห้างสรรพสินค้าหรูในประเทศท่องเที่ยวชั้นนำ ที่กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าดำเนินธุรกิจอยู่ อาทิ Rinascente ประเทศอิตาลี, ILLUM ประเทศเดนมาร์ก, GLOBUS ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, กลุ่ม KaDeWe ประเทศเยอรมนีและประเทศออสเตรีย หลังจากการรวมธุรกิจใหม่นี้จะทำให้กลุ่มบริษัทมียอดขายรวมทั้งหมด 5 พันล้านยูโรในปี 2019 และคาดว่าจะเติบโตถึง 7 พันล้านยูโรในปี 2024 จาก 8 ประเทศ และ 35 เมืองสำคัญในยุโรป
การผนึกกำลังครั้งนี้จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรม และส่งเสริมความสัมพันธ์ของแบรนด์ชั้นนำในทุกโลเคชันทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาเพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำห้างสรรพสินค้าลักชัวรี Omni Channel เต็มรูปแบบระดับโลก
แกเล็น เวสตัน ได้เข้าซื้อกิจการห้างดัง Selfridges เมื่อปี 2003 และได้ก่อตั้งกลุ่ม Selfridges ขึ้นในปี 2010 โดยการรวบรวมแบรนด์ห้างสรรพสินค้าชั้นนำไว้ด้วยกัน นำแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ ด้านดีไซน์ ประสบการณ์ลูกค้า การพัฒนาดิจิทัล และออมนิแชแนลแพลตฟอร์ม ตลอดจนบริการต่างๆ โดยนับได้ว่าห้าง Selfridges ได้ชื่อว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลก
การลงทุนในกลุ่ม Selfridges ครั้งนี้จะเป็นการร่วมทุน 50/50 ระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลกับซิกน่า โดยในส่วนของกลุ่มเซ็นทรัลนั้น บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) มีสิทธิ์พิจารณาเข้าลงทุนในส่วนธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่ไม่รวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคณะผู้บริหารและกรรมการบริษัท CRC จะดำเนินการศึกษา พิจารณาความเหมาะสมและผลตอบแทนการลงทุนอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่ อย่างไรก็ดี กลุ่มเซ็นทรัลมีความพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปในการลงทุนทั้งหมด
ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัลรู้สึกตื่นเต้น ยินดี และเป็นเกียรติ ที่ได้มีโอกาสลงทุนในกลุ่ม Selfridges ในครั้งนี้ ซึ่งรวมไปถึงที่ดินและอาคารห้าง Selfridges บนถนนออกซ์ฟอร์ด ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางบนถนนช้อปปิ้ง ณ กรุงลอนดอนมากว่า 100 ปี ด้วยความที่กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าเป็นธุรกิจครอบครัว เราจึงมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและแตกต่างทั้งภายในห้างและช่องทางดิจิทัลต่างๆ สำหรับลูกค้าทั้งที่อยู่ในประเทศและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปของกลุ่ม Selfridges ในอีก 100 ปีข้างหน้า พวกเราพร้อมที่จะทำงานกับผู้บริหารและเพื่อนพนักงานของกลุ่ม Selfridges เพื่อมุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทรีเทลชั้นนำเป็นเลิศระดับโลก”
ดีเทอร์ เบอร์นิงเฮาส์ ประธาน และคณะกรรมการบริหารของกลุ่มซิกน่า กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลในการเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ในครั้งนี้ เราได้วางแผนที่จะทำงานกับนักออกแบบชั้นนำของโลกในการปรับโฉมของห้าง โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการรักษาไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมดั้งเดิม เติมเต็มวิสัยทัศน์ของ แกเล็น เวสตัน ในการสร้างประสบการณ์รีเทลชั้นนำ เพื่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา”
อลันนาห์ เวสตัน ประธานของกลุ่ม Selfridges กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการของห้าง Selfridges โดยกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่า เป็นสิ่งการันตีถึงความสำเร็จของคุณพ่อ (แกเล็น เวสตัน) ที่มีความตั้งใจในการมุ่งมั่นที่จะทำให้ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเป็นห้างสรรพสินค้าที่สวยและครบครันที่สุด ความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจของการทำธุรกิจในทุกด้านมาอย่างยาวนาน พร้อมการเติบโตอย่างยั่งยืน พวกเราภูมิใจที่ได้ส่งต่อไปยังเจ้าของใหม่ ซึ่งมีรากฐานจากธุรกิจครอบครัวที่มีความตั้งใจในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว และพร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งต่อไป”
สเตฟาโน เดลลา วัลเล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล ยุโรป กล่าวว่า “กลุ่ม Selfridges เป็นกิจการที่ 2 ที่เราเข้าซื้อในช่วงวิกฤตการณ์โควิด เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นในทั้งธุรกิจค้าปลีกใจกลางเมืองและอนาคตของห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมือง กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นว่า เมื่อการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายลง ชีวิตที่เป็นปกติและการสังสรรค์ต่างๆ จะกลับมา กลุ่ม Selfridges จะเข้ามาเติมเต็มธุรกิจห้างสรรพสินค้าและ Omni Channel ของกลุ่มเซ็นทรัล และทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง”
แอนน์ พิชเชอร์ กรรมการผู้จัดการของกลุ่ม Selfridges กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจที่พวกเราได้สร้างกลุ่ม Selfridges ให้เป็นธุรกิจห้างชั้นนำแห่งหนึ่งของโลกที่ทันสมัย แปลกใหม่ พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน มีความสัมพันธ์กับคู่ค้าที่แน่นแฟ้นดีเยี่ยม และมีการลงทุนด้านดิจิทัลที่ครบครัน ตลอดเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ตระกูลเวสตันเป็นเจ้าของกิจการ โดยทั้งหมดจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากทีมงานที่ดีที่ช่วยสร้างและพัฒนาธุรกิจมาร่วมกันกับเรา
“กลุ่ม Selfridges ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมทำงานกับห้างดังในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Rinascente ประเทศอิตาลี, ILLUM ประเทศเดนมาร์ก, GLOBUS ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, KaDeWe ประเทศเยอรมนีและประเทศออสเตรีย ถือว่าเป็นโอกาสอันดีในการผนึกกำลังและตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านรีเทลระดับโลกของธุรกิจเรา”
การเข้าซื้อกิจการกลุ่ม Selfridges ในครั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และเมื่อทุกฝ่ายได้บรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP