เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q66 ของ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 15 สิงหาคม 2566
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CENTEL ปรับลดลง 6.19%MoM อยู่ที่ระดับ 45.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.47%MoM สู่ระดับ 1,529.01 จุด
พรีวิวผลประกอบการ 2Q66:
ผลประกอบการ 2Q66 คาดว่า CENTEL จะรายงานกำไรปกติ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากจากกำไรสุทธิเพียง 22 ล้านบาทใน 2Q65 จากฐานต่ำ แต่ลดลง 67%QoQ เพราะถูกฉุดรั้งโดยการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมที่อ่อนแอลงตามฤดูกาล โดยเฉพาะในมัลดีฟส์
สมมติฐานในผลประกอบการ 2Q66 คือ
1. กำไรจากธุรกิจโรงแรมจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท (ฟื้นตัวจากขาดทุน 116 ล้านบาทใน 2Q65 แต่ลดลงจากกำไร 538 ล้านบาทใน 1Q66) หากไม่รวม JV ในดูไบ ประเมินว่า RevPAR ใน 2Q66 จะลดลง 31%QoQ (ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิดอยู่ 5%) หลักๆ ถูกฉุดรั้งโดยโรงแรมในมัลดีฟส์ (21% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม) ซึ่ง RevPAR น่าจะลดลง 52%QoQ โดยมีสาเหตุมาจากอัตราการเข้าพักและ ARR ที่ลดลง
โรงแรมในประเทศไทยน่าจะได้รับผลกระทบทางฤดูกาลน้อยกว่ามัลดีฟส์ โดยที่คาดว่า RevPAR ของโรงแรมในกรุงเทพฯ (28% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม) จะลดลง 4%QoQ และ RevPAR ของโรงแรมในต่างจังหวัด (51% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม) จะลดลง 33%QoQ ซึ่งคาดว่า EBITDA Margin จะลดลงสู่ 26% ใน 2Q66 (จาก 40% ใน 1Q66) โดยมีสาเหตุมาจากการดำเนินงานที่อ่อนแอลงและค่าใช้จ่ายก่อนเริ่มดำเนินงานสำหรับโรงแรมในโอซาก้าที่ ~25-30 ล้านบาท (เปิดดำเนินงานในเดือนกรกฎาคม)
2. กำไรจากธุรกิจอาหารจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท (ลดลงจาก 138 ล้านบาทใน 2Q65 แต่เพิ่มขึ้นจาก 91 ล้านบาทใน 1Q66) โดยคาดว่ายอดขายสาขา (SSS) จะเติบโต 3% (เทียบกับ 19% ใน 2Q65 และ 8% ใน 1Q66) และ EBITDA Margin จะอยู่ที่ 18.5% ลดลงจาก 23% ใน 2Q65 โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนการดำเนินงาน เช่น ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนพนักงานที่สูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 18% ใน 1Q66
แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:
3Q66 คาดว่ากำไรปกติของ CENTEL จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจะถูกลดทอนไปบางส่วนโดยการจ่ายค่าเช่าสูงขึ้น เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม CENTEL ได้ต่อสัญญาเช่าสำหรับ Centara Grand Beach Resort & Villas Hua Hin (6% ของรายได้จากธุรกิจโรงแรม) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งประกอบด้วยสัญญาเช่าช่วงที่ดิน อาคาร และทรัพย์สิน เพื่อปลูกสร้างเป็นระยะเวลา 4 ปี และสัญญาเช่าช่วงที่ดิน อาคาร และทรัพย์สิน เพื่อการจัดหาประโยชน์เป็นระยะเวลา 30 ปี
CENTEL ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเช่าใหม่ จากบทสัมภาษณ์ของ รฟท. ในหนังสือพิมพ์ ซึ่งคาดว่าค่าเช่าจะอยู่ที่ ~190 ล้านบาทต่อปี สูงกว่า ~100 ล้านบาทต่อปี ในปีล่าสุด CENTEL วางแผนปรับปรุงโรงแรมเดิมและสร้างโรงแรมใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพและมูลค่าของสินทรัพย์ แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด
สำหรับปี 2566 ประเมินกำไรปกติของ CENTEL ที่ 1.7 พันล้านบาท กลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด และ 2.3 พันล้านบาทในปี 2567 (เพิ่มขึ้น 39%YoY)
InnovestX Research ประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของ CENTEL อยู่ที่ 50 บาทต่อหุ้น อ้างอิงการประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP โดยยังคงเรตติ้ง NEUTRAL เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้นดูไม่น่าตื่นเต้น และราคาหุ้นมี Upside ค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายดังกล่าว
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ที่จะส่งผลต่อความต้องการเดินทางและต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร