วานนี้ (22 กรกฎาคม) พิเชษฐ สถิรชวาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ถึงแนวทางการลงมติของกลุ่มในญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยในช่วงแรกพิเชษฐระบุว่า กลุ่มพรรคเล็กพูดคุยถึงการลงมติที่ควรจะลงไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับคนในอนาคต ซึ่งจะพิจารณาจากการชี้แจงข้อกล่าวหาของรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปราย
พิเชษฐระบุเพิ่มเติมว่า ณ ตอนนี้ มีรัฐมนตรีอยู่ 4 คน ที่กลุ่มของตนจะพิจารณาโหวตไม่ไว้วางใจ เนื่องจากการลุกขึ้นหนีการชี้แจงหลังฝ่ายค้านจบการอภิปราย ซึ่งพวกตนมองว่าเป็นเรื่องที่เสียเครดิต และหนึ่งในนั้นคือ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ตอนนี้ยืนยันได้ว่าจะมี 6 จาก 16 คน ต้องการจะลงมติไว้วางใจ ส่วนที่เหลือ 10 คน จำเป็นต้องกลับไปพิจารณาให้ชัดเจนในวันนี้ (23 กรกฎาคม) เพื่อที่จะกลับมาลงมติกันภายในให้เสียงของทั้ง 16 คนไปในทางเดียวกันในที่ประชุมสภา เว้นแต่เมื่อมีการลงมติภายในแล้วมีเสียงเท่ากัน ถ้าเป็นเช่นนั้นกลุ่มของตนจะให้ ส.ส. ทุกคนลงมติตามเอกสิทธิ์ของตนเอง
พิเชษฐกล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณี สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตนเองยังไม่รู้สึกถึงความกระจ่างจากการชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งจากการพูดคุยก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยกับตน และผู้ที่ไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน ถัดมาที่ นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พิเชษฐระบุว่า ตนมีความกังวลเรื่องการทุจริตในอดีตที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยยังเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งก็ยังชี้แจงข้อกล่าวหาได้ไม่ชัดเจนพออีกเช่นเดียวกัน
และสุดท้ายสำหรับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตนมีความรู้สึกว่ามีความบกพร่องในการจัดการปัญหาเรื่องถุงมือยาง ซึ่งมีความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการที่จะกล่าวหาว่าจุรินทร์มีส่วนรู้เห็นในการทุจริตครั้งนี้
พิเชษฐยังกล่าวถึงกรณีการข่มขู่จาก ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. จังหวัดพะเยา เขต 1 หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ว่าการที่ ร.อ. ธรรมนัสออกมาบอกว่าจะนำหลักฐานการรับเงินของกลุ่ม 16 มาเปิดเผยนั้น เป็นเรื่องที่ใหญ่ เพราะเอกสารที่เซ็นระบุสถานที่ไว้ในมูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งในส่วนนี้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะมีส่วนรับผิดชอบด้วย ซึ่งตนเผยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเสียความรู้สึก และกล่าวเสริมว่า ร.อ. ธรรมนัสยังมีอนาคต แต่ถ้ายังใช้วิธีการเช่นนี้อยู่จะมีใครกล้าไปอยู่ด้วย
