วันนี้ (31 สิงหาคม) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยระบุว่า ได้ทำลายวงจรชีวิตมนุษย์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงเชิงตะกอนในห้วงสถานการณ์โควิด จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยรัฐบาลบริหารที่ผิดพลาด บกพร่อง ล้มเหลว และเสียหายอย่างร้ายแรงของสองรัฐมนตรี โดยประการแรกคือ ไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ ประการที่สอง รวบอำนาจ เป็นโรคหลงตัวเอง ประการสุดท้ายคือ ทุจริต หากินบนความตายของประชาชน เรียกว่าเป็นผู้สั่งการที่ โง่ บ้า โกง
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ข้อกล่าวหาไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์นั้น สะท้อนการไม่มีภาวะผู้นำของรัฐบาล และจากการที่แต่งตั้ง ดร.เสรี วงษ์มณฑา เป็นบรรณาธิการบริหารศูนย์บริหารการสื่อสารในภาวะวิกฤตของ ศบค. ที่ไม่เคยขอโทษประชาชน แต่มีคุณสมบัติพร้อมปะทะ ขณะที่การสื่อสารก็ไม่ใช้ข้อเท็จจริง ใช้วิธีกดตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อเพื่อกลบเกลื่อน สร้างภาพ โดยเฉพาะช่วงใกล้อภิปรายไม่ไว้วางใจที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงรายวัน จนวันนี้เหลือ 40,000-50,000 คนเท่านั้น จากยอดเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม 60,000 คน
ส่วนข้อกล่าวหาการรวบอำนาจของ พล.อ. ประยุทธ์ ก็ได้รวบอำนาจทั้งหมดไว้เองจนทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นง่อย และใน ศบค. ก็ยังนำเอาทหารมาเป็นหมอรักษาโรคแทนที่จะนำหมอมารักษาจนทำให้เกิดคนป่วยและตายตามมา ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ว่าหาก พล.อ. ประยุทธ์ และอนุทิน ไม่ดำเนินการใดๆ ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่ม 10,000 รายต่อวัน ดังนั้นท่านรู้อยู่แก่ใจว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร แต่กลับปล่อยปละละเลย ซึ่งกว่าจะดำเนินการก็เป็นการกระทำที่เล็งเห็นผลแล้ว
สุดท้ายข้อกล่าวหาทุจริต นพ.ชลน่านย้ำว่าหลังการอภิปรายเสร็จสิ้นตนจะดำเนินคดีกับ พล.อ. ประยุทธ์ ฐานไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและไม่สุจริต มีพฤติกรรมฉ้อฉลทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติ ครม. และข้อสั่งการนายกฯ เช่น ข้อสั่งการนายกฯ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่ระบุว่าประชาชนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนต้องได้รับวัคซีนครบทุกคน และยังขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55 กรณีการฉีดวัคซีน การรักษาพยาบาล ไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการบริการสาธารณสุขของรัฐ และการไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX เป็นต้น
“แสดงให้เห็นว่า พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้ทำตามข้อสั่งการที่ตนเองสั่งมา และทำระบบสาธารณสุขล้มเหลว ล้มละลาย รวมถึงกาารเลือกปฏิบัติ ไม่สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน โดยกีดกันภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนเอง และทุจริตการจัดหาชุดตรวจ ATK พบการล้มโต๊ะประมูลที่กำหนด TOR ไม่ต้องผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลก โดยมีเจตนาพิเศษแก้ไขข้อสั่งการ และยังตัดข้อสั่งการเรื่องความแม่นยำในการตรวจ ซึ่งเป็นความผิดสำเร็จแล้ว” นพ.ชลน่านกล่าว
นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า หลังการอภิปรายเสร็จสิ้น ตนจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ยังจะร้องไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบด้วย สุดท้ายนี้ นายกฯ เป็นชายชาติทหารถวายสัตย์ปฏิญาณ ท่านอาจจะมีเจตจำนงที่ดีในการเข้ามาช่วยบ้านเมือง ท่านอาจจะมีมโนธรรมที่ดี อาจจะมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ถ้าท่านลาออก 3 เดือนหลังจากนี้ ท่านจะเป็นวีรบุรุษต่อพวกเราทุกคน