สำนักศึกษา กรุงเทพมหานคร จัดสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษตามกรอบมาตรฐานสากล CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) ของครูและนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 3 กันยายน 2567 โดยจัดสอบสำหรับครูและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รวมกว่า 30,000 คน
ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ และจะช่วยให้เด็กเข้าสู่ความเป็น Global Citizen ได้ กรุงเทพมหานครจึงมีแผนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนในสังกัด กทม. ผ่าน 3 องค์ประกอบ ได้แก่ การพัฒนาเด็ก การพัฒนาครู และการนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมบูรณาการ
ที่ผ่านมาโรงเรียนสังกัด กทม. ไม่เคยมีการสอบวัดมาตรฐานครูและนักเรียนมาก่อน โดยแต่ละโรงเรียนจะออกข้อสอบของตัวเอง จึงไม่มีเกณฑ์กลางในการวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ แต่การจัดสอบ CEFR ครั้งนี้เป็นการใช้ข้อสอบมาตรฐานสากลเข้ามาช่วยในการวัดประเมินทักษะทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด ซึ่งแบ่งเกณฑ์ความสามารถเป็น 6 ระดับ และมีเกณฑ์มาตรฐานกำหนดไว้แล้วว่าเด็กแต่ละระดับชั้นควรอยู่ในเกณฑ์ระดับไหน และการสอบในปีนี้ ซึ่งเป็นการจัดสอบทั้งครูผู้สอนและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้รู้ว่าทั้งครูและนักเรียน โรงเรียน อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานระดับใด ซึ่งจะนำไปสู่การปรับหลักสูตรการสอนและการพัฒนาครูที่เหมาะสมกับแต่ละระดับต่อไป
ศานนท์กล่าวต่อว่า ในยุคนี้เทคโนโลยีก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าภาษาอังกฤษ กทม. จึงยังมีแผนในการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาร่วมบูรณการการเรียนการสอนในทุกมิติ ซึ่งทั้งสามส่วนที่ กทม. กำลังพัฒนาจะช่วยให้นักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม. มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น และมีศักยภาพในการแข่งขันระดับสากลได้แน่นอน
ทั้งนี้ กทม. ได้จัดสอบในโรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 429 แห่ง มีครูเข้าร่วมสอบ 1,400 คน และมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าร่วมสอบ 30,189 คน โดยจัดสอบในรอบปกติตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม – 3 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นการสอบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยทดสอบ 4 ทักษะ ประกอบด้วย
- การอ่าน จำนวน 15 ข้อ จำกัดเวลา 35 นาที
- การฟัง จำนวน 15 ข้อ จำกัดเวลา 30 นาที
- การพูด จำนวน 2 ข้อ จำกัดเวลา 10 นาที
- การเขียน จำนวน 1 ข้อ จำกัดเวลา 15 นาที