วันนี้ (19 มิถุนายน) มีการเผยแพร่ภาพวงจรปิดที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ขณะที่ตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) จังหวัดชลบุรี กำลังควบคุมตัว เป้ ผู้ต้องหาในคดีเว็บไซต์การพนัน เพื่อเข้าพบกับ พล.ต.ต. กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ต่อมาถูกระบุว่ามีการเรียกรับเงินจากเป้ โดยมีต้นและบอยเป็นคนกลางเจรจาระหว่างเป้กับ พล.ต.ต. กัมพล
ในภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะตำรวจนำตัวผู้ต้องหาเข้าไปภายในอาคารบริเวณชั้น 2 ตรงไปที่ห้องทำงานของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เวลา 18.51 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ตำรวจเข้าตรวจค้นและจับกุมภายในบ้านพักย่านคลองสามวาของผู้ต้องหา จากนั้นปรากฏภาพชุดดังกล่าวเดินออกจากอาคารบริเวณชั้น 1 โดยตำรวจคุมตัวเป้ที่สวมเสื้อสีขาวออกไปจากอาคาร
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ซึ่งอาจเป็นกรณีแรกที่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังบังคับใช้ พ.ร.บ. นี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำหรับมาตรการลงโทษตำรวจที่ไม่ทำตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ในมาตรา 22 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุม จนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนหรือปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวไป เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถกระทำได้ ก็ให้บันทึกเหตุนั้นเป็นหลักฐานบันทึกไว้ในการควบคุมตัว
ซึ่งบทกฎหมายใน พ.ร.บ. นี้ไม่ได้กำหนดโทษเอาไว้ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ทำผิดก็จะผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นข้อหาเบื้องต้น