“หลังจากที่ผ่านไป 4 นัดแล้ว มีใครบ้างที่ชอบ Brest?”
คำถามจาก เคท สกอตต์ พิธีกรสาวคนเก่ง นำไปสู่หนึ่งในโมเมนต์สุดฮาของรายการฟุตบอล CBS Sports Golazo
“ผมชอบ Shape ของพวกเขานะ” เจมี คาร์ราเกอร์ หนึ่งในนักวิเคราะห์ของรายการ ให้ความเห็น ในขณะที่ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ อีกหนึ่งพิธีกรร่วม พยายามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต เพราะในหัวนั้นคิดเป็นอย่างอื่นไปแล้วกับคำว่า Brest ซึ่งเป็นชื่อสโมสร กับ Breast ที่หมายถึงหน้าอกหน้าใจของหญิงสาว
“ใช่ พวกเขามีผู้เล่นที่ใหญ่มาก 2 คน” เธียร์รี อองรี นักวิเคราะห์หลักตัวจริง พยายามว่าต่อในมุมฟุตบอล แต่ดูเหมือนไมกาห์จะกลั้นไม่ไหวแล้ว
จนเคทยิงคำถามว่า “คุณชอบมากแค่ไหน พร้อมจะจ่ายเงินเพื่อดู Brest ไหม”
คาร์ราเกอร์ตอบว่า “ผมเคยจ่ายไปแล้ว” และนั่นเองที่เสียงหัวเราะของไมกาห์ระเบิดออกมา
ความมหัศจรรย์คือรายการฟุตบอลที่เหมือนนั่งฟังเพื่อนยิงมุกใส่กันรายการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมหาศาล เฉพาะคลิปตอน Brest มีผู้ชมมากกว่า 20 ล้านคน และไม่ใช่แค่ตอนนี้เท่านั้นที่กระแสตอบรับดี เพราะ CBS Sports Golazo เป็นไวรัลที่แฟนบอลทั่วโลกพร้อมจะแชร์โมเมนต์แบบนี้ให้คนอื่นได้ฮาไปด้วยกัน
แต่แน่นอนว่ารายการนี้ไม่ได้มีแค่ความฮาเท่านั้น อะไรคือความลับที่ทำให้ CBS Sports Golazo ซึ่งเป็นรายการฟุตบอลจากสหรัฐอเมริกา ได้รับความรักจากแฟนบอลทั่วโลกมากยิ่งกว่ารายการสุดเก๋าที่เราเคยรู้จักอย่าง Match of the Day หรือ Monday Night Football ไปแล้ว?
แต่ก่อนจะไปไกล ต้องเล่าย้อนนิดว่ารายการ CBS Sports Golazo ที่กำลังจะพูดถึงนี้คือรายการ Matchday Analysis ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทางช่อง CBS Sports Golazo Network ซึ่งเป็นสถานีกีฬา 24 ชั่วโมงในเครือ Paramount ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลแชมเปียนส์ลีกในสหรัฐอเมริกา
ไม่ใช่รายการฟุตบอลจากสหราชอาณาจักรเหมือนรายการ Match of the Day, Monday Night Football (MNF), The Overlap และอื่นๆ
ตรงนี้เองที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะในความรู้สึกเดิมแล้วสหรัฐอเมริกา – ประเทศเดียวในโลกที่เรียกฟุตบอลว่า ‘ซอกเกอร์’ (Soccer – แม้ว่าคำนี้ก็เป็นคำเรียกจากภาษาอังกฤษดั้งเดิมตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 นั่นแหละ) – จะมารู้ดีหรือเข้าใจอะไรกับเกมลูกหนัง
แต่กลายเป็นว่า CBS Sports Golazo กลายเป็นความแตกต่างที่น่าสนใจ ซึ่งช่อง Plaantik อีกหนึ่งในช่องฟุตบอลคุณภาพระดับ ‘ของดี’ ได้วิเคราะห์และช่วยอธิบายถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นของรายการ CBS Sports Golazo (คำว่า Golazo เป็นคำภาษาสเปนที่นักพากย์จะพูดเมื่อได้เห็นสุดยอดประตูที่สวยงาม) เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ
1. The A Team ทีมงานคุณภาพคับแก้ว
เมื่อเปิดเข้าไปชมรายการ CBS Sports Golazo จะพบผู้ดำเนินรายการ 4 คนด้วยกัน ซึ่ง 3 คนในนั้นเป็นคนที่ทุกคนคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
แต่คนที่เป็นผู้ถือ ‘กุญแจ’ ที่จะเปิดประตูหัวใจของแฟนบอลคือ เคท สกอตต์ หรือชื่อเดิม เคท แอ็บโด พิธีกรสาวชาวอังกฤษ ซึ่งเกิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ ที่แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ในการเป็นนักกีฬาอาชีพ แต่ก็มีประสบการณ์ในการทำงานโทรทัศน์มาอย่างยาวนานในหลายประเทศ
หนึ่งในจุดสูงสุดของการทำงานของเธอคือการได้เป็นพิธีกรในพิธีประกาศรางวัลลูกบอลทองคำ หรือ ‘บัลลงดอร์’ (ในยุคที่จัดร่วมกับ FIFA)
ด้วยความสามารถที่พูดได้ถึง 4 ภาษา ไหวพริบปฏิภาณ และความรู้ที่ไม่ธรรมดา ทำให้เธอสามารถช่วยประคองรายการที่สุดแสนโกลาหลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการรับมือกับ เจมี คาร์ราเกอร์ และ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ สองตัวป่วนประจำรายการ
แต่ถึงจะเห็นอำ ยิงมุก ฮากันไม่หยุด คาร์ราเกอร์เองก็เป็นนักฟุตบอลระดับตำนานของลิเวอร์พูล มีประสบการณ์มากมายในฐานะนักวิเคราะห์ของ Sky Sports เช่นเดียวกับริชาร์ดส์ ที่ถึงจะเป็นตัวโจ๊กของทุกรายการ แต่ก็มีประสบการณ์มาไม่น้อย
ความเปิ่นของคาร์ราเกอร์กับความป่วนของริชาร์ดส์ คือความวายป่วงที่เป็นสีสันที่ทำให้รายการนี้ไม่เหมือนรายการไหนในโลก
แต่ CBS Sports Golazo ไม่ได้มีแค่ความตลกโปกฮาเท่านั้น พวกเขายังมี ‘มันสมอง’ ของรายการอย่าง เธียร์รี อองรี ตำนานตลอดกาลของอาร์เซนอลและพรีเมียร์ลีก ที่มีมุมมองการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งเหนือชั้นที่สุดคนหนึ่งของวงการในตอนนี้
อองรีสามารถอธิบายเรื่องยากๆ ให้เข้าใจได้ง่าย และชี้ให้เห็นถึงรายละเอียดที่บางทีอย่าว่าแต่แฟนบอลเลย แม้แต่นักวิเคราะห์ด้วยกันเองก็คาดไม่ถึง เช่น รายละเอียดของแท็กติก หรือเทคนิคเฉพาะตัวบางอย่างของนักเตะ
และทีเด็ดคืออองรีเป็นคนตลกเช่นกัน ซึ่งพร้อมจะฮาไปกับตัวป่วนเหล่านี้ด้วย เพียงแต่ถ้าถึงเวลาที่เขาพูดจริงจัง ทุกคนก็พร้อมจะฟัง
นี่คือสุดยอดทีมงานคุณภาพในระดับเกรดเอของวงการที่ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เข้ากันอย่างน่ามหัศจรรย์ ทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่น่าจะเข้ากันได้เลย
2. สมดุลแห่งความฮาและความรู้
ถึงแม้ว่ารายการนี้จะดูเหมือนเป็นการด้นสด ไม่มีสคริปต์ มุกต่างๆ ความฮาเกิดขึ้นแบบธรรมชาติ (Organic) แต่ในเบื้องหลังแล้วรายการนี้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี
ผู้อยู่เบื้องหลังคือโปรดิวเซอร์ของรายการอย่าง พีท ราโดวิช จูเนียร์ ที่ต่อยอดแรงบันดาลใจจากรายการวิเคราะห์บาสเกตบอล NBA สุดฮิตอย่าง Inside the NBA ทางช่อง TNT ที่ผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์ที่เข้มข้นกับความตลกสนุกสนานเข้าด้วยกันได้อย่างน่ามหัศจรรย์
เขาเชื่อว่ารายการแบบนี้ถูกจริตกับผู้ชมชาวอเมริกันที่เป็นตลาดหลักของรายการ และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
จุดขายของรายการคือความเพี้ยน ความตลก ที่แม้แต่ช่วงของการสัมภาษณ์นักฟุตบอลหรือโค้ชก็กลายเป็นไวรัลได้ เพราะคนที่ต้องมาออกรายการรู้ดีว่าพร้อมจะเจออำหรือโดนยิงคำถามอะไรประหลาดๆ มาตลอด เช่น จู่ๆ คาร์ราเกอร์ก็อยากสัมภาษณ์เป็นภาษาสเปนด้วยการกด Translate แล้วอ่านคำถามจากโทรศัพท์มือถือแบบเพี้ยนสุดๆ หรือเรียกชื่อทีมอินเตอร์ มิลาน ว่าอินเตอร์ นาซิออนนาเล ที่ไม่มีใครเขาเรียกกัน”
แต่โปรดิวเซอร์อย่าง ราโดวิช จูเนียร์ และพิธีกรหลักทุกคน ไม่ได้คิดจะขายขำอย่างเดียว เมื่อถึงช่วงที่ต้องวิเคราะห์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเมื่ออองรีหรือแม้แต่คาร์ราเกอร์พูด ทุกคนก็พร้อมที่จะเข้าโหมดจริงจังทันที เรียกว่าสลับได้เหมือนกดสวิตช์
ในทางตรงกันข้าม ถ้าช่วงไหนเริ่มจริงจังเกินไปจนชักไม่สนุก คาร์ราเกอร์กับริชาร์ดส์ก็พร้อมที่จะดึงโมเมนตัมกลับทันทีด้วยความวายป่วงของพวกเขา
นั่นทำให้ CBS Sports Golazo มีความสมดุลทั้งความฮาและความรู้ในเวลาเดียวกัน และกลายเป็นความแตกต่างที่ตอบโจทย์กับยุคสมัยที่ผู้ชมเริ่มเปลี่ยนวัย เปลี่ยนเจเนอเรชัน ไปมากแล้ว
รายการฟุตบอลจริงจังแบบเดิมๆ ไม่ตอบโจทย์ผู้ชมยุคใหม่อีกต่อไป แต่ในอังกฤษเองรายการแบบนี้ยังทำไม่ได้ เพราะในอังกฤษมีเรื่องของ Rivalry ระหว่างผู้ชมแต่ละสโมสรอยู่ ขณะที่สหรัฐฯ ไม่มีเรื่องแบบนี้
Persona ของเขาในแบบ Golazo ไม่สามารถอยู่ในรายการของ Sky Sports ได้ในเวลานี้ แม้ว่า Sky Sports จะพยายามค่อยๆ ปรับพฤติกรรมผู้ชมผ่านรายการสมัยใหม่อย่าง The Overlap ก็ตาม
3. จัดรายการแบบ High Line
ถึงจะดูเหมือนง่าย แต่รายการ CBS Sports Golazo ไม่ได้ทุกอย่างมาง่ายแบบนั้น
ในทางตรงกันข้าม พวกเขาก็เล่นเกมเสี่ยงอยู่เหมือนกัน ประหนึ่งการยืนกองหลังในแบบ High Line แนวรับเช็กสูงที่เป็นการเดิมพันที่สูง ที่หวังผลตอบแทนสูง แต่ก็สามารถพังได้ง่ายๆ เช่นกัน
กรอบของรายการนี้ที่โปรดิวเซอร์ขีดไว้คือการไม่มีกรอบตายตัว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เป็นเรื่องธรรมชาติ ดังนั้นหลายครั้งที่บทสนทนาภาษาลูกหนังมักจะมี ‘อะไรก็ได้’ เกิดขึ้นได้เสมอ เช่น การเผลอพูดไม่สุภาพ หรือจู่ๆ คาร์ราเกอร์ก็ไปแฝงตัวกับกลุ่มแฟนบอลดอร์ทมุนด์และซดเบียร์แก้วใหญ่ออกอากาศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถ้าเป็นรายการอื่นก็คงถูกเซ็นเซอร์ไปแล้ว
หรืออีกครั้งหนึ่งที่มีการพูดถึงข้าวของเครื่องใช้สุดเหม็นของ เดวิด เบ็คแฮม ที่ปกติแล้วก็ไม่ควรจะเอามาพูดในรายการ หรือแม้แต่การเผากันเองของพิธีกรในรายการ
สิ่งเหล่านี้ถ้าเป็นรายการอื่นอาจจะลบๆ หรือลืมๆ ไป แต่ CBS Sports Golazo เลือกจะหยิบขึ้นมาเป็นไฮไลต์ของรายการ เพื่อที่จะดึงดูดผู้ชมให้อย่างน้อยเข้ามาติดตามก่อนได้ยิ้มสักหนึ่งกรุบ แล้วถ้าได้สาระอะไรกลับไปด้วยจากรายการนี้ก็ถือว่าเป็นกำไรของผู้ชมเอง
ผลตอบแทนที่ได้?
ตอนนี้มีผู้กดติดตามรายการนี้ 7.97 ล้านคนเข้าไปแล้ว โดยฐานผู้ชมไม่ได้อยู่แค่ในสหรัฐฯ แต่เป็นแฟนบอลทั่วโลก
หนึ่งในแฟนรายการนี้คือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่ฝากคำชมว่า “นี่คือรายการฟุตบอลที่สนุกที่สุดในฤดูกาลนี้”
แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังคือ บางครั้งการเล่นมากเกินไปก็อาจเป็นผลเสียได้เหมือนกัน เช่น ครั้งหนึ่งที่คาร์ราเกอร์ล้ำเส้นเคทในเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับสามีที่เพิ่งแต่งงานกัน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่อดีตกองหลังลิเวอร์พูลถูกตำหนิว่าเล่นไม่รู้เรื่อง จนทำให้เคทถึงขั้นต้องปิดการแสดงความเห็นบน Instagram ส่วนตัว
เหตุการณ์นั้นถึงขั้นทำให้มีคำถามว่าวงจะแตกหรือไม่เลยทีเดียว แต่เคทจัดการทุกอย่างได้อย่างเข้มแข็งในตอนต่อมา ด้วยการบอกว่าเธอเติบโตในครอบครัวที่มีพี่น้องเป็นผู้ชาย บางทีก็เจอการเล่นไม่รู้เรื่องแบบนี้บ้าง แต่สุดท้ายทุกคนก็คือ ‘ครอบครัว’
เรื่องแบบนี้เป็นเหมือน ‘ใบเหลือง’ ที่จะต้องคอยเตือนสติพิธีกรทุกคนของรายการ โดยเฉพาะตัวโจ๊กอย่างคาร์ราเกอร์และริชาร์ดส์ เพียงแต่ถามว่าทุกคนรวมถึงโปรดิวเซอร์จะเปลี่ยนแปลงโทนของรายการเพื่อให้ปลอดภัยขึ้นไหม?
คำตอบนั้นชัดเจนว่าไม่ เพราะจะฮา จะห่ามบ้าง แต่นี่แหละคือ CBS Sports Golazo
รายการฟุตบอลที่ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์หนึ่งหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็เป็นรายการที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอยว่าวันนี้จะมีอะไรให้ดูแล้วยิ้มอีกบ้าง
และในทางการสื่อสารมวลชนแล้ว นี่คือ ‘แบบเรียน’ ที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่งในโลกยุคใหม่ ที่อะไรเดิมๆ อาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป
อ้างอิง: