เคธี วูด (Cathie Wood) ซีอีโอและผู้จัดการกองทุน ARK Investment หนึ่งในนักลงทุนมือฉมัง แสดงความเชื่อมั่นต่อความแข็งแกร่งของคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin แม้จะมีข่าวแง่ลบต่อแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลจนฉุดอุตสาหกรรมโดยรวมให้อยู่ในภาวะตลาดหมีหนักข้อมากขึ้นก็ตาม
ในการสัมภาษณ์กับ Bloomberg เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Wood ยังคงคาดการณ์ว่าราคาเหรียญของ Bitcoin จะฟื้นกลับขึ้นแตะ 1 ล้านดอลลาร์ในปี 2030 เหมือนที่เคยพูดไว้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เคธี วูด ยันหุ้นเทคฯ-นวัตกรรม ไม่ใช่ฟองสบู่ ย้ำกลยุทธ์หลักลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
- เคธี วูด ฉวยจังหวะตลาดดิ่งหนัก ช้อนซื้อหุ้นถึง 27 ตัว หนึ่งในนั้นคือ NVIDIA ที่ราคาหุ้นดิ่ง 60% จนมูลค่าหายไป 5 แสนล้านดอลลาร์
- เคธี วูด โวยกรณีถอดหุ้น Tesla จากดัชนียั่งยืน ย้ำเป็นเรื่องไร้สาระ สวนทางเป้าธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม
Wood กล่าวว่า กว่าจะถึงเป้าหมายเส้นชัยในการลงทุน บางครั้งก็ต้องเจอแบบทดสอบ บางครั้งก็ต้องเผชิญกับวิกฤต เพื่อหาคนที่แข็งแกร่งที่จะอยู่รอดต่อไป โดยสิ่งที่ทำให้ราชินีนักลงทุนรายนี้ยังมั่นใจใน Bitcoin ก็คือโครงสร้างเทคโนโลยีบล็อกเชนที่อยู่เบื้องหลัง ที่จะทำให้ Bitcoin มีศักยภาพและเกิดการใช้งาน (Use Cases) ที่หลากหลายมากขึ้น
Bitcoin ถือเป็นคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม มูลค่าของ Bitcoin นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลงไปแล้วถึง 64% ซึ่งในมุมมองของ Wood สถานการณ์ดังกล่าวเป็น Crypto Winter และถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ปรับโครงสร้างของ Bitcoin และทดสอบแนวทางการลงทุนของตนเอง โดย Wood กล่าวว่า สำหรับเธอแล้ว Bitcoin ยังส่งกลิ่นหอมน่าลงทุนออกมา
อย่างไรก็ตาม Wood ยอมรับว่าการล่มสลายของ FTX และตลาดที่ตกต่ำ อาจทำให้นักลงทุนสถาบันมีเหตุผลในการชะลอการยอมรับคริปโต แต่นั่นก็เป็นโอกาสในการเรียนรู้สำหรับนักลงทุนในท้ายที่สุด
เอลซัลวาดอร์ออกร่างกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล
วันเดียวกันมีรายงานว่า Maria Luisa Hayem Brevé รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเอลซัลวาดอร์ ได้ส่งร่างกฎหมายการออกสินทรัพย์ดิจิทัลไปยังสภานิติบัญญัติของประเทศ ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับการเปิดตัวพันธบัตร Volcano ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Bitcoin
เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้มีความคิดริเริ่มในการพยายามที่จะดึงดูดเงินทุนและนักลงทุนมายังเอลซัลวาดอร์ ซึ่งรวมถึงแผนการออกพันธบัตรมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์บน Liquid Network ซึ่งเป็นเครือข่าย Bitcoin แบบรวมศูนย์ โดยการดำเนินการของพันธบัตรจะถูกแบ่งระหว่างการจัดสรรโดยตรงให้กับ Bitcoin มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ และการลงทุนในจำนวนที่เท่ากันในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและการขุด Bitcoin ในภูมิภาค
โดย Sidechain คือบล็อกเชนอิสระที่ทำงานคู่ขนานกับบล็อกเชนอื่น ทำให้สามารถใช้โทเคนจากบล็อกเชนนั้นได้อย่างปลอดภัยใน Sidechain ในขณะที่ปฏิบัติตามชุดกฎ ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ และกลไกความปลอดภัยที่แตกต่างกัน ซึ่ง Liquid เป็น Sidechain ของ Bitcoin ที่ช่วยให้ Bitcoin เคลื่อนไหวระหว่างเครือข่าย Liquid และ Bitcoin ด้วยหมุดสองทาง
Paolo Ardoino ซีทีโอของแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคริปโต Bitfinex ทวีตข้อความระบุว่า กฎหมายหลักทรัพย์ดิจิทัลจะช่วยให้เอลซัลวาดอร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินของอเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดย Bitfinex ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตเพื่อให้สามารถดำเนินการและแสดงรายการการออกพันธบัตรในเอลซัลวาดอร์ได้
รายงานระบุว่า บอนด์ดังกล่าวจะจ่ายผลตอบแทนที่ 6.5% และช่วยให้นักลงทุนสามารถขอสัญชาติได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลจะแบ่งปันผลกำไรเพิ่มเติมอีกครึ่งหนึ่งให้กับนักลงทุนในรูปของ Bitcoin Dividend เมื่อมีการสร้างรายได้ 500 ล้านดอลลาร์ดั้งเดิม เงินปันผลเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายทุกปีโดยใช้แพลตฟอร์มการจัดการสินทรัพย์ของ Blockstream
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นก้าวสำคัญครั้งแรกก่อนที่จะได้เห็นบอนด์ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง โดยขณะนี้รอแค่ให้ทางรัฐสภาอนุมัติรับรอง ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นก่อนวันคริสต์มาส
อ้างอิง:
- https://www.businessinsider.com/bitcoin-outlook-million-2030-crypto-Cathie Wood still sees bitcoin hitting $1 million by 2030 as the current crisis will have the token ‘coming out of this smelling like a rose’cathie-wood-ark-ftx-collapse-2022-11
- https://bitcoinmagazine.com/legal/el-salvador-submits-bitcoin-bond-bill