วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย ณรงค์ ศรีระสันต์ และ นาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้กำหนดความคุ้มครองความปลอดภัยกับ
กุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และ สุริยน ประภาสะวัต อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ที่เข้าร่วมให้คำแนะนำปรึกษาในการสืบสวนสอบสวนคดีที่จับกุมเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ (มินนี่) กับพวก
เนื่องจากมีการรายงานว่า มีกลุ่มผู้ต้องหาในคดีที่ยังรับราชการตำรวจอยู่ มีพฤติการณ์ข่มขู่คุกคามจากการเข้าไปให้คำแนะนำในการสอบสวนตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ แต่ทางกลุ่มผู้ต้องหาได้ร้องเรียนการทำหน้าที่ของอัยการทั้ง 2 คน ต่ออัยการสูงสุด พร้อมกับแนบเอกสารภาพถ่ายที่ปรากฏภาพของกุลธนิตและสุริยน ในขณะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาการสืบสวนสอบสวน
ซึ่งมีลักษณะเป็นการติดตามและแอบถ่าย โดยผู้ถูกถ่ายภาพไม่ยินยอมและไม่รู้ตัว เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ในเชิงการคุกคามข่มขู่ ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยต่อตนเองและครอบครัว จึงขอพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคณะพนักงานสอบสวนชั่วคราว จนกว่าสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยได้
ประยุทธกล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางอัยการสูงสุดได้ทำหนังสือถึง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินการในประเด็นต่อไปนี้ คือ
- ขอให้มีมาตรการในการป้องกันคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่อัยการทั้ง 2 คน
- ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณามาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของบุคคลดังกล่าว และดำเนินมาตรการไม่ให้ผู้ต้องหาที่ยังคงรับราชการเป็นตำรวจทั้ง 8 คน คุกคามข่มขู่พนักงานอัยการและขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน
- ให้อัยการทั้ง 2 คนหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะได้มีการดำเนินการตามข้อ 1 และข้อ 2 เสร็จ
- หากพนักงานอัยการเห็นว่ามีความปลอดภัยแล้ว ให้เรียนอัยการสูงสุดทราบและแจ้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ในคดีนี้ต่อไป
- ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ หากพบบุคคลกระทำความผิดอาญาให้ดำเนินคดีและรายงานผลคดีให้อัยการสูงสุดทราบด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้ากลับมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรณีที่พนักงานอัยการพักการร่วมสอบสวนในคดีนั้น จะมีผลต่อความล่าช้าในการสอบสวนหรือไม่ ตนเชื่อว่าอาจส่งผลกระทบ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ขอความร่วมมือมาทางอัยการเอง
ด้านนาเคนทร์กล่าวว่า หากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายข่มขู่คุกคาม ก็ขอให้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาดำเนินการต่อไป
ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายภาพพนักงานอัยการระดับสูงในการปฏิบัติงาน เป็นการสะท้อนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า หากกรณีนี้เกิดขึ้นได้ กับประชาชนทั่วไปก็จะลำบากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ อัยการทั้ง 2 คนจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง