THE STANDARD POP เพิ่งมีโอกาสพิเศษในการได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ แคโรไลน์ ซอห์ ผู้กำกับหญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีใต้ จากสารคดีเบื้องหลังชีวิตศิลปินเคป๊อปที่หลายคนรอคอยอย่าง BLACKPINK: Light Up The Sky ซึ่งเธอมาเล่าประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากการถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับเคป๊อปเรื่องแรกของ Netflix ในหลากหลายแง่มุม ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ BLINK ตื่นเต้นที่จะดูมากกว่าเดิม
“ฉันทำงานกับ Netflix มาหลายโปรเจกต์ และเขากำลังจะสร้างภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับวง BLACKPINK เขาจึงมาติดต่อฉันว่าสนใจกำกับหรือเปล่า ฉันตื่นเต้นมาก เพราะฉันเป็นคนเกาหลีเหมือนกัน ซึ่งมันสนุกมากที่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับประเทศตัวเอง หลังจากนั้นเราได้เข้าไปคุยกับทาง YG และมันก็เริ่มมาจากจุดนั้น” แคโรไลน์เล่าถึงจุดเริ่มต้นก่อนจะเกิดเป็นโปรเจกต์นี้ หลังจากที่ได้เคยร่วมงานกับ Netflix จากซีรีส์สารคดีเรื่อง Salt, Fat, Acid, Heat ที่เกี่ยวกับศาสตร์การทำอาหารที่ดัดแปลงมาจากหนังสืออาหารชื่อดังเมื่อปี 2018
แคโรไลน์กล่าวว่าขั้นตอนการถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ โดยถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี 2019 และเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 รวมเข้ากับฟุตเทจเบื้องหลังต่างๆ ที่ทีมงานของ BLACKPINK ถ่ายเก็บไว้ขณะที่พวกเธอทำงานและออกทัวร์คอนเสิร์ต
“มันเจ๋งมากที่ได้เห็นพวกเธออัดเพลงร่วมกัน ฉันไม่คิดว่าจะนึกภาพความสนุกของการทำเพลงออกเลย มันจึงสนุกมากที่ได้เห็นขั้นตอนการทำเพลงที่ทุกคนมีส่วนร่วม มันเป็นเบื้องหลังที่สุดยอดมากที่เราได้เข้าไปถ่ายทำ” เธอเล่าถึงโมเมนต์ที่ประทับใจระหว่างการถ่ายทำกับทั้ง 4 สาวและ เท็ดดี้ พัค โปรดิวเซอร์มือทองที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่เดบิวต์ และยังบอกอีกว่าพวกเขาทั้งหมดเปรียบเสมือนครอบครัวที่มุ่งมั่นและให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีจนผลิตผลงานเพลงออกมาได้อย่างไร้ที่ติ
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้แคโรไลน์จะทำงานเป็นผู้กำกับสารคดีอิสระที่มีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเคป๊อปค่อนข้างน้อย แต่เธอก็มีหลานชายที่คอยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเคป๊อปให้เธอฟังอยู่ที่บ้าน “ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้ BLACKPINK ประสบความสำเร็จอย่างมากคือทุกอย่างเลย ทั้งเพลงที่ติดหู โปรดักชันการทำมิวสิกวิดีโอที่ตระการตามากๆ สไตล์การแต่งตัวที่จัดจ้าน และความสามารถของสาวๆ ทุกคน”
และในมุมมองของผู้กำกับที่คลุกคลีกับทั้ง 4 สาวมาช่วงเวลาหนึ่ง เธอได้เห็นนิสัยและความแตกต่างของสมาชิกแต่ละคนด้วย “จีซูเป็นพี่คนโต เธอสง่า มีวุฒิภาวะ และห่วงใยผู้อื่น แต่ก็มีมุมตลกด้วย เจนนี่นั้นถึงจะดูขี้อาย แต่เธอก็มีความตรงไปตรงมา มีความเป็นผู้นำ และรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร โรเซ่คือศิลปินโดยธรรมชาติ และชอบท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง อย่างเช่นการทำเพลงที่เธอกลัวมาตลอด จนทำให้คนอื่นที่เหลืออยากพัฒนาตัวเองตาม และลิซ่าคือแก้วตาดวงใจของวง เธอสดใสและสนุกสนาน เธอทำให้ทุกคนยิ้มได้ แต่ก็มีความเป็นมืออาชีพและเก่งชนิดหาตัวจับยาก”
ถึงแม้ว่า BLACKPINK จะเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ก้าวสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมดนตรีระดับโลกและประสบความสำเร็จอย่างมากภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้กำกับอย่างแคโรไลน์บอกว่าเธอได้เรียนรู้คือความพยายาม การอุทิศตนอย่างหนัก และความเชื่อมั่นในตัวเอง จนวันหนึ่งสิ่งที่พวกเธอได้ทุ่มแรงใจและแรงกายลงไปออกผลอย่างเช่นทุกวันนี้ และสิ่งสุดท้ายที่เธออยากให้ผู้ชมได้เรียนรู้จากสารคดีเรื่องนี้ก็คือ “ฉันหวังว่าทุกคนจะได้เห็นในหลากหลายมิติที่ทำให้พวกเธอมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีความเห็นอกเห็นใจกับสิ่งที่พวกเธอต้องเผชิญ และไม่ตัดสินพวกเธอเพียงแค่ภาพที่ออกมาแบบมิติเดียว”
ติดตามชมสารคดีเรื่อง BLACKPINK: Light Up The Sky ได้ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ทาง Netflix
*สามารถรับชมตัวอย่างสารคดีเรื่อง BLACKPINK: Light Up The Sky ได้ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=7jx_vdvxWu0
ภาพ: Netflix
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
