วันนี้ (12 สิงหาคม) ในการแข่งขันเทนนิส ATP 1000 รายการเนชันแนลแบงก์โอเพน ที่แคนาเดียนคอร์ต เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ชิงเงินรางวัลรวม 6.6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 231 ล้านบาท ในรอบก่อนรองชนะเลิศเป็นการพบกันของ คาร์ลอส อัลคาราซ นักเทนนิสมือ 1 ของโลกจากสเปน พบกับ ทอมมี พอล นักเทนนิสชาวอเมริกัน มือวางอันดับ 14 ของโลก
ผลปรากฏว่าแมตช์นี้ทั้งคู่สู้กันได้อย่างสูสี และต้องแข่งขันกันถึง 3 เซ็ต ก่อนที่จะเป็นพอลที่ทำได้ดีกว่า หลังตีเสียเองตลอดทั้งแมตช์แค่ 8 ครั้ง พร้อมยิงวินเนอร์ไป 26 แต้ม เอาชนะไปได้ 2-1 เซ็ต สกอร์ 6-3, 4-6 และ 6-3 โดยใช้เวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 21 นาที
ชัยชนะนัดนี้ทำให้พอลเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ โดยจะพบกับ ยานนิก ซินเนอร์ นักหวดหมายเลข 8 ของโลกจากอิตาลีต่อไป
ขณะเดียวกันนี่เป็นการหยุดสถิติของอัลคาราซที่ชนะคู่แข่งมาต่อเนื่อง 14 นัดรวด และยังส่งผลให้ตำแหน่งนักหวดหมายเลข 1 ของโลกของดาวรุ่งชาวสเปนรายนี้สั่นคลอนด้วย
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะโนวัค ยอโควิช นักหวดหมายเลข 2 ของโลกจากเซอร์เบีย สามารถกลับเข้าสู่สหรัฐอเมริกาได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 และได้สิทธิ์ในการลงแข่งขันเทนนิสเวสเทิร์นแอนด์เซาเทิร์นโอเพนในสัปดาห์หน้า
นั่นหมายความว่า ‘โนเล’ จะไม่มีคะแนนที่ต้องป้องกันเลยแม้แต่แต้มเดียว และทุกรอบที่เขาเข้าไปได้ก็จะเป็นคะแนนเพิ่มเติมให้เขาทั้งหมด และหากเขาสามารถคว้าแชมป์ในรายการดังกล่าวได้ ก็มีโอกาสจะกลับขึ้นไปครองมือ 1 ของโลกอีกครั้งได้เช่นกัน หากอัลคาราซไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ตามเป้า
จากการคิดคะแนนแบบเรียลไทม์ อัลคาราซมีคะแนนนำยอโควิชอยู่ 600 คะแนน และในรายการเวสเทิร์นแอนด์เซาเทิร์นโอเพน เขามีคะแนนต้องป้องกันอยู่ 180 แต้ม ทำให้มีโอกาสที่อันดับโลกในวงการเทนนิสชายจะเปลี่ยนมือได้เช่นกัน
อ้างอิง: