วันนี้ (20 มีนาคม) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว ของศึกเทนนิส ATP Masters 1000 รายการ BNP Paribas ชิงเงินรางวัลรวม 8.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.08 ร้อยล้านบาท ที่เมืองอินเดียน เวลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
โดยรอบชิงชนะเลิศเป็น คาร์ลอส อัลคาราซ มือวางอันดับ 1 ของรายการชาวสเปน ที่เอาชนะ ยานนิค ซินเนอร์ จากอิตาลี เข้าไปชิงชนะเลิศกับ ดานิล เมดเวเดฟ มือวางอันดับ 5 จากรัสเซีย ที่เอาชนะ ฟรานเชส ติอาโฟ จากสหรัฐฯ และผ่านเข้าชิงชนะเลิศรายการนี้เป็นครั้งแรก
ผลปรากฏว่าเป็นอัลคาราซที่เอาชนะไปได้ 2 เซ็ตรวด สกอร์ 6-3 และ 6-2 พร้อมทำสถิติไม่เสียเซ็ตเลยในทัวร์นาเมนต์นี้ และเตรียมกลับคืนสู่ตำแหน่งมือหนึ่งของโลกอีกครั้งในการจัดอันดับโลกของ ATP ในวันนี้
“สิ่งนี้มีความหมายกับผมมาก การได้กลับคืนสู่ตำแหน่งมือหนึ่งเป็นสิ่งที่บ้ามาก” อัลคาราชกล่าวหลังคว้าแชมป์ด้วยเวลาแข่งขัน 1 ชั่วโมง 10 นาทีในรอบชิงชนะเลิศ
“แต่การได้คว้าแชมป์รายการนี้ที่นี่มีความหมายมากเช่นกัน ผมรักรายการนี้ ผมมีความสุขทุกครั้งที่มาที่นี่ และแน่นอนผมรู้สึกได้ถึงความรักจากทุกคนตั้งแต่วันแรก สำหรับผมนี่เป็นช่วงเวลา 10 วันที่ยอดเยี่ยมมาก”
สำหรับ คาร์ลอส อัลคาราซ คว้าแชมป์ระดับมาสเตอร์ส 1000 ได้เป็นรายการที่ 3 หลังจากที่คว้าแชมป์ไมอามี โอเพน และมาดริด โอเพน และเป็นนักกีฬาที่คว้าแชมป์ระดับมาสเตอร์ 1000 ได้ 3 รายการ ได้เป็นคนที่ 2 ในช่วงวัยรุ่น ต่อจาก ราฟาเอล นาดาล ที่คว้าแชมป์ระดับมาสเตอร์สไปได้ 6 รายการตั้งแต่เขายังอายุไม่ถึง 20 ปี
โดยรายการต่อไปที่ไมอามี โอเพน หากอัลคาราซสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จจะทำให้เขารักษาตำแหน่งมือหนึ่งของโลกได้ต่อไป เนื่องจาก โนวัค ยอโควิช เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 22 สมัย ไม่สามารถเข้าสหรัฐฯ เพื่อลงแข่งขันได้ เพราะสถานะการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แม้ว่าจะทำวีซ่าพิเศษแล้ว
อ้างอิง: