×

Tried & Tested: พา Canon EOS R6 ลงสนามฟุตบอล ออกเดินย่านชุมชน และล่าแสงตอนกลางคืนที่สีลม

19.11.2020
  • LOADING...
Canon EOS R6 ลงสนามฟุตบอล ออกเดินย่านชุมชน และล่าแสงตอนกลางคืนที่สีลม

HIGHLIGHTS

5 mins read
  • THE STANDARD ทดสอบใช้งาน Canon EOS R6 กล้อง Mirrorless ตัวใหม่ของ Canon ในปี 2020 
  • จากการทดลองใช้งานตั้งแต่ถ่ายกีฬาฟุตบอล ถ่ายกลางคืน และภาพทั่วไป พบว่ากล้องตัวนี้มาพร้อมกับฟังก์ชัน และนวัตกรรมในการถ่ายภาพใหม่ในหลายแง่มุม 
  • ผู้ที่ต้องการใช้งานกล้องตัวนี้อาจต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับระบบนานพอสมควร ด้วยช่องทางในการปรับปุ่มการใช้งาน และระบบโฟกัสใหม่ที่มีให้เลือกใช้มากกว่าเก่า 
  • ประสบการณ์จากกล้อง DSLR สิ่งที่มีเพิ่มขึ้นจากเดิมคือความเร็ว ทั้งการโฟกัสที่ไวขึ้น และความเร็วชัตเตอร์ที่สามารถปรับเป็น Electronic ได้เร็วถึง 20 fps 

หากจะพูดถึงกล้อง Mirrorless หรือกล้องไร้กระจกตัวที่หลายคนพูดถึงในปี 2020 ชื่อของ Canon ตระกูล EOS R สองรุ่นที่เปิดตัวใหม่ไปเมื่อกลางปี อาจเป็นสิ่งที่แฟนของค่าย Canon หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ 

 

เนื่องจากเจ้ากล้องตระกูล EOS R ของ Canon ที่เปิดตัวใหม่ถึง 2 ตัวในปีนี้ทั้ง R5 และ R6 ต่างก็มาพร้อมกับเทคโนโลยี และสเปกต่างๆ ที่เรียกได้ว่า ค่ายนี้หันมาจริงจังกับการผลิตกล้องระบบ Mirrorless แล้ว ด้วยการเปิดตัวพร้อมกับคำกำกับว่า Born to Rule 

 

 

โดยตัวที่เราได้รับโอกาสมาทดลองเป็นเวลา 5 วันจากทาง Canon Thailand คือ EOS R6 พร้อมตัวเลนส์ทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วย 24-70 F2.8 RF, 70-200 F2.8 RF และ 600 F11 RF ใช้งานใน 3 สถานการณ์ที่แตกต่างกัน 

 

  1. ทดสอบความเร็วที่ราชมังคลากีฬาสถาน ฟุตบอลทีมชาติไทย vs. ไทยลีก ออลสตาร์ 

 

 

สังเวียนแรกที่เรานำ R6 ลงสนามคือราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่กลับมาใช้สนามแห่งนี้เป็นสังเวียนการแข่งขัน 

 

โดยเกมนี้เป็นแมตช์อุ่นเครื่องนัดพิเศษ จึงทำการแข่งขันในช่วงเวลาพิเศษ เริ่มต้นในเวลา 16.00 น. ซึ่งแสงในสนามจะไม่เหมือนกับการแข่งขันปกติ ที่จะเริ่มแข่งขันประมาณ 18.00 น. หรือ 19.00 น. ที่ไฟสนามทั้งสี่เสาจะเปิดใช้งาน 

 

แต่มาครั้งนี้เราพบกับแสงแดงที่ตัดอัฒจันทร์ ฝั่งที่มีหลังคาไปส่องสว่างอยู่อีกฝั่งของสนามฟุตบอล ทำให้การวัดแสงและการถ่ายนักเตะยากกว่าการแข่งขันช่วงเวลาปกติ 

 

จากบททดสอบนี้ เราได้ทดลองใช้งานระบบโฟกัสใบหน้าและดวงตา ที่เร็วขึ้นในระบบ Mirrorless ซึ่งพบว่าการโฟกัสนั้นทำได้ดีขึ้นจากกล้องกระจก ทั้งในด้านของประสิทธิภาพและความเร็ว แต่สิ่งที่ยากคือการตั้งระบบ Auto-Focus ที่มีให้เลือกเยอะมากจนต้องใช้เวลาปรับอย่างละเอียดถึงจะเข้าใจ และใช้งานได้อย่างเต็มที่ 

 

 

คุณภาพของรูปที่ออกมาทั้ง JPEG และ RAW เห็นว่าสามารถปรับในโปรแกรมหลังถ่ายได้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ปัญหาที่พบเจอ คือสิ่งที่เป็นข้อดีกลายเป็นข้อเสีย เมื่อคุณไม่ค่อยมีเวลาปรับตัวใช้งานกับระบบใหม่มากนัก 

 

 

เนื่องจาก EOS R6 สามารถปรับแต่งปุ่ม และฟังก์ชันการทำงานของกล้องได้อย่างละเอียดยิบ และการเลือกแบบโฟกัสตั้งแต่ใบหน้า บนพื้น จนถึงการปรับเลือกจุดที่โฟกัสเองได้ผ่านจอยสติ๊ก ที่เลือกจุดโฟกัสได้ครบเกือบทั้งหน้าจอ 

 

ขณะที่การใช้งาน RF 600mm f/11 IS STM นับว่าเป็นเลนส์ที่สามารถใช้งานในการถ่ายฟุตบอลได้ แต่ในการถ่ายฟุตบอลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ขาตั้งกล้องยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเลนส์ตัวนี้ แม้ว่าจะมีน้ำหนักเบา 

 

 

รวมถึงระบบต่างๆ ที่เคยอยู่ตามปุ่มเดิม เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก แต่หากมีเวลาปรับทุกอย่างให้คุ้นเคย และมีเวลาในการทดสอบใช้งานนานขึ้น เจ้ากล้องตัวนี้ถือว่าอัปเกรดขึ้นกว่าตัวเก่าที่ใช้อยู่ คือ EOS 6D Mark II 

 

เรื่องของความเร็วในการตอบสนอง และระบบการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วย Electronic Shutter ที่ 20 fps ช่วยให้เราไม่พลาดจังหวะสำคัญ แต่ก็ทำให้เราเผลอตัวกดถ่ายจนการ์ดเต็มได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน 

 

  1. ทดสอบในที่มืดบนถนนใจกลางกรุง 

 

 

หนึ่งในฉายาที่กล้องตัวนี้ได้รับคือ The Low Light King in 2020 ซึ่งต้องยอมรับว่า ถ้าจะดูความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างไฟล์ภาพของ 6D Mark II กับ EOS R6 คือภาพที่ถ่ายในช่วงเวลากลางคืน หรือที่แสงน้อย 

 

 

ตั้งแต่ระบบโฟกัสที่ R6 เหมือนจะสามารถมองเห็นโฟกัสได้ดีขึ้น และรวดเร็วกว่าผ่าน Electronic Viewfinder ในขณะที่ 6D Mark II บางครั้งหาจุดโฟกัสไม่เจอ ก็จะไม่สามารถเก็บภาพได้ 

 

 

โดยไฟล์ภาพเมื่อเข้าโปรแกรม Lightroom ถ้าเราเลือกปรับ Auto ภาพที่เราคิดว่าจะมองไม่เห็นตั้งแต่ตอนถ่าย ก็สว่างขึ้นจนเห็นรายละเอียดต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในภาพได้มากขึ้น ส่วนปัญหา Noise มารบกวนในภาพก็น้อยลงมาก ส่วนหนึ่งจากการที่ตัวกล้องมีกันสั่นในตัว ที่ช่วยให้สามารถถ่ายด้วยชัตเตอร์สปีดที่ช้าลงได้ 

 

  1. ทดสอบการใช้งานทั่วไป กับการเดินในชุมชนตั้งแต่ปากคลองตลาดถึงฝั่งธนฯ

 

 

จุดประสงค์หลักของการพาชุดอุปกรณ์นี้ออกเดิน คือการใช้งานในพื้นที่จริง ที่จะพบเจอกับสถานการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่สถาปัตยกรรม ชุมชน และแมวจรจัดที่พบได้เกือบทุกมุม เพื่อทดลอง Animal Eye Focus 

 

เรานำอุปกรณ์ทั้งชุดเดินเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ออกสตาร์ทตั้งแต่ปากคลองตลาด เดินย้อนไปถึงท่าเตียน ข้ามไปยังวัดอรุณฯ ก่อนจะวกกลับเข้าชุมชนกุฎีจีน เพื่อขึ้นเรือข้ามฝั่งกลับมาสู่ตลาดดอกไม้ 

 

แมวสีขาว ตาสีฟ้า

 

โดยรวมจากการเดินพบว่า กล้องสามารถทำงานได้ครบทุกรูปแบบ โดยไม่มีปัญหากวนใจมากเท่าไรนัก ไฮไลต์ของการเดินคงอยู่ที่เลนส์ระยะ RF 600mm f/11 IS STM ที่ทำให้เราสามารถยกเอาซูเปอร์เทเลออกมาส่องเหมือนกล้องส่องทางไกล ไปถ่ายในจุดต่างๆ ที่ปกติคงไม่มีทางซูมถึง หรือคงไม่มีทางยกเลนส์ EF 600mm f/4L IS III USM ที่ใช้ในสนามฟุตบอลออกมาถ่ายสถานการณ์ทั่วไปแบบนี้ 

 

ถ่ายโดย RF 600mm f/11 IS STM จากอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา

ถ่ายโดย RF 600mm f/11 IS STM จากอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา 

 

อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอระหว่างการเดิน คือหน้าจอสัมผัสที่ตอบสนองเร็วมาก จนบางครั้งเวลาถ่ายจมูกหรือนิ้วอาจไปโดนบางฟังก์ชันได้ระหว่างการถ่าย รวมถึงหากคุณสะพายกล้องด้านข้าง ตอนที่ยกกลับขึ้นมาถ่าย กล้องคุณอาจจะอยู่ในอีกโหมดหนึ่งโดยที่คุณไม่รู้ตัว! 

 

 

ด้วยความคล่องตัว บวกกับคุณภาพของกล้องและเวลาที่จำกัด โดยรวมเรามองว่า Canon EOS R6 เป็นการยกระดับมาตรฐานกล้อง Mirrorless ของ Canon เองให้สามารถขึ้นมาต่อสู้ในตลาดได้อย่างเข้มข้นขึ้น

 

 

แต่สำหรับราคาและคุณภาพจะคุ้มค่าหรือไม่ จุดนี้มองว่า EOS R6 เหมาะแก่การใช้งานทั่วไปจนถึงมืออาชีพ เนื่องจากการทดลองใช้ทำงาน และถ่ายภาพทั่วไปยังไม่พบว่ามีจุดใดที่ส่วนตัวเราต้องการเพิ่มในเวลานี้ 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

FYI

สเปกทั่วไป 

  • Approx. 20.1MP full-frame CMOS sensor + 4K video
  • Up to 8-stop In-Body Image Stabilizer X Optical Image Stabilizer
  • Low-light performance up to EV -6.5 + ISO 102400
  • Up to 20 FPS + Animal Detection AF
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising