จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนสำหรับเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ในปีนี้กลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคระบาดอันเข้มงวดและรัดกุม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ค่อนข้างน่าพอใจ เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาว่า โดยรวมแล้วมีผู้ติดเชื้อโควิดภายในงานเฉลี่ยวันละ 3 คนเท่านั้น
เมื่อวานนี้ Variety ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า ทางผู้จัดงานได้ใช้จ่ายเงินไปมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจหาเชื้อโควิดให้แก่ผู้เข้าร่วมงานราว 28,000 คน ทั้งในประเทศฝรั่งเศสและที่เดินทางเข้ามาจากทวีปยุโรป ซึ่งต้องแสดงหลักฐานว่าตนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เนื่องจากขณะนี้เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตากำลังระบาดหนัก
การควบคุมการระบาดของโควิดได้อย่างอยู่หมัดครั้งนี้ ส่งผลให้ผู้จัดได้รับคำชื่นชมล้นหลาม และถูกยกให้เป็นโมเดลที่เทศกาลหนังอื่นๆ ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นสามารถนำไปทำตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน เธียร์รี เฟรโมซ์ ผู้ควบคุมงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ก็ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน โดยเฉพาะมาตรการควบคุมอันเข้มแข็งที่ทำให้งานสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย
“มันเป็นเทศกาลที่วิเศษมาก เราจัดงานขึ้นในเวลาที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้บรรยากาศที่ใกล้กับความปกติ ต้องขอบคุณมาตรการควบคุมอันชาญฉลาดและเข้มแข็งที่ทำให้งานผ่านไปอย่างราบรื่น เราคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าการได้กลับมาพบกันอีกครั้งของคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มันจะโอ่อ่าขนาดนี้” เฟรโมซ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่เทศกาลหนังเมืองคานส์สามารถกลับมาจัดได้เต็มรูปแบบอีกครั้งก็ถือเป็นสัญญาณอันดีที่บ่งบอกว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์กำลังจะกลับสู่ความคึกคัก มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ได้พรีเมียร์ในงานปีนี้ และส่วนใหญ่ก็ถูกอกถูกใจบรรดานักวิจารณ์ ไล่ตั้งแต่ Annette (2021) หนังมิวสิคัลที่นำแสดงโดย อดัม ไดรเวอร์, The French Dispatch (2021) ของ เวส แอนเดอร์สัน, Titane (2021) ที่ชนะรางวัลปาล์มทองคำ, Memoria (2021) ของยอดผู้กำกับชาวไทย เจ้ย-อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ฯลฯ
ภาพ: Stephane Cardinale – Corbis / Corbis via Getty Images
อ้างอิง: