×

เลือกตั้ง 2566 : ดีเบต ‘ห้องเรียนรัฐมนตรี’ หาว่าที่ รมว.ศึกษาฯ ในรัฐบาลชุดใหม่ ยกเคสเยาวชนถูกจับ ม.112 ถามพรรคการเมือง

07.05.2023
  • LOADING...

วานนี้ (6 พฤษภาคม) นักเรียนเลว จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ระหว่างพรรคการเมืองด้านการศึกษาและสิทธิมนุษยชนภายในโรงเรียนที่ชื่อ ‘ห้องเรียนรัฐมนตรี Candidate Classroom’ ณ ลาน One Arena โครงการ Stadium One 

 

มีตัวแทนจาก 6 พรรคการเมืองเข้าร่วม ได้แก่ วรนัยน์ วาณิชกะ พรรคชาติพัฒนากล้า, ณภัทร ชวนรำลึก พรรคชาติไทยพัฒนา, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี, ธีราภา ไพโรหกุล พรรคเพื่อไทย, กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ พรรคก้าวไกล และ ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ พรรคไทยสร้างไทย

 

กิจกรรมมีทั้งหมด 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 รู้จักว่าที่รัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ตัวแทนพรรคการเมืองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนไทย และนำเสนอนโยบายของพรรค พร้อมทำข้อสอบเพื่อวัดทัศนคติ 10 ข้อ ซึ่งแต่ละพรรคมีความเห็นที่ต่างกัน เช่น ในเรื่องของทรงผม พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับการกำหนดกฎทรงผมแต่ต้องมาจากความเห็นชอบของตัวแทนนักเรียน ขณะที่ นพ.วรงค์ยืนยันว่า เด็กจะต้องฝึกทำตามกฎเพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต และยังไม่เห็นด้วยกับการที่นักเรียนไปชุมนุม เพราะอาจถูกชักจูงได้ ต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่เห็นด้วย 

 

ทั้งนี้ ไม่มีตัวแทนพรรคการเมืองใดเห็นด้วยกับการบริหารการศึกษาภายใต้การนำของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และการไว้ใจส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน

 

สำหรับช่วงที่ 2 ตอบปัญหานักเรียนไทย เป็นการเสนอนโยบายของแต่ละพรรคในแก้ปัญหาให้นักเรียนไทย และช่วงที่ 3 ศึกประชันวิสัยทัศน์ตัวต่อตัวระหว่างพรรค โดยระหว่างการดีเบตผู้ชมสามารถให้คะแนนตัวแทนของพรรคการเมือง 

 

สำหรับช่วงที่ 3 มีประเด็นคำถามดีเบต เช่น หากมีการชุมนุมแบบเยาวชนทะลุแก๊ซจนเกิดการสูญเสียระหว่างที่คุณเป็นรัฐบาล คุณจะรับมืออย่างไร กุลธิดากล่าวว่า การชุมนุมเกิดจากเสียงของประชาชนไม่ถูกรับฟัง หากพรรคเป็นรัฐบาลจะนำเสียงของประชาชนเข้ามาสู่รัฐสภาเพื่อมาตกลง และทำให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมกับทุกฝ่าย และการจัดการผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลก้าวไกล แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย หากต้นเหตุมาจากภาครัฐจะต้องออกมารับผิดชอบต่อผู้ที่สูญเสีย ตามกระบวนการยุติธรรมและกฎหมาย 

 

ธิดารัตน์กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเอาปัญหาเข้ามาแก้ไขในสภา รวมทั้งต้องถอดบทเรียนจากสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านการหารือบนโต๊ะเจรจา 

 

คำถาม เด็กดีในทัศนะของคุณเป็นอย่างไรนั้น ณภัทรกล่าวว่า เราต้องดูแลประชาชนทุกคน ไม่แยกว่าประชาชนคนดีคนเลว ไม่ว่าเด็กจะเป็นอย่างไร เรามีหน้าที่ในการรับฟัง เข้าใจ และดูแล เสียงที่ออกมาคือเสียงที่ต้องการแสดงออก คือความต้องการของเขา สภาคือสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่สภาคิดแทนราษฎร ดังนั้นเราต้องรับฟังและส่งเสียงเขาให้เป็นที่ได้ยิน 

 

ด้านวรนัยน์กล่าวว่า ในโลกนี้มีแต่ความดีและความเลว ในบริบทการเมืองเรามักจะเห็นความเลวแสดงออกมาเพราะอำนาจยั่วยวน ทำให้คนที่คิดว่าตัวเองดีหรือสังคมคิดว่าดีคอร์รัปชันได้ ในระบบประชาธิปไตยจึงต้องมีฝ่ายค้านและสื่อมวลชนที่มาตรวจสอบ เด็กดีและผู้ใหญ่ดีเป็นเพียงวาทกรรมของโลกมายาเพียงเพราะเขาเชื่อฟัง ก้มหัว และยอมทำทุกอย่าง ต่างกับคนที่เลวคือคนที่ไม่ยอม เผด็จการไม่ใช่ทางเลือก เพราะเผด็จการไม่ได้ให้เราเลือก เผด็จการมาพร้อมกับปืน รถถัง คสช. ที่คนไม่เห็นด้วยโดนจับเข้าคุก มี 250 ส.ว. เข้ามาโหวตนายกรัฐมนตรี 

 

สำหรับคำถาม จากกรณีการจับกุม หยก นักกิจกรรมอายุ 15 ปี เป็นปัญหาของกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่า กรณีหยกตอนนี้มีความชัดเจนว่ามีกระบวนการให้เด็กทำแล้วผู้ใหญ่มารณรงค์ว่าเด็กถูกรังแก เป็นการสร้างความเสียหายต่อบ้านเมืองที่ไทยภักดีจะยอมไม่ได้เด็ดขาด โดยในช่วงหนึ่งของการดีเบต นพ.วรงค์ได้หยิบภาพเหตุการณ์ของหยกขึ้นมาชูด้วย

 

ด้านตัวแทนพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับ นพ.วรงค์ การที่บอกว่าเอาเด็กมาเป็นตัวประกันทางการเมืองเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เด็กออกมาแสดงความคิดเห็นนั่นคือเสรีภาพ การที่ถูกจับกุมแล้ววันนี้ไม่ได้รับการประกันตัวออกมา ไม่เกี่ยวกับการที่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งใช้เป็นเครื่องมือ แต่ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมที่ซับซ้อนในการช่วยเหลือเด็กออกมา 

 

สำหรับคำถาม หลักสูตรการสอนสังคมและประวัติศาสตร์ในปัจจุบันที่มุ่งเน้นไปที่สถาบันหลักของชาติ ควรได้รับการปรับปรุงหรือไม่ ตัวแทนพรรคชาติพัฒนากล้ากล่าวว่า โทรศัพท์ใช้นานๆ ต้องอัปเดต หลักสูตรควรมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับบริบทของสังคมปัจจุบัน สำหรับสถาบันของชาติเรารู้อยู่แล้วว่าเรามีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติ อย่าดึงท่านมาเกี่ยวข้อง เราต้องสอนให้เด็กรู้จักคิด วิเคราะห์ แยกแยะ 

 

ด้าน นพ.วรงค์กล่าวว่า สถาบันฯ ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศ การเรียนรู้ให้เยาวชนซึมซับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นถ้ามีกระบวนการจ้องทำลายสถาบันฯ เป็นสิ่งที่อันตราย เวทีนี้ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องของสถาบันฯ ขึ้นมา การเอาคำถามเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง เวทีนี้ดึงสถาบันฯ ลงมาให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยหรือไม่ 

 

นอกจากนี้ยังมีคำถามเรื่องของการประท้วงด้วยวิธีการนัดหยุดเรียน เป็นสิ่งที่นักเรียนควรทำหรือไม่ ซึ่งมีทั้งพรรคที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และคำถามเรื่องพรรคที่เคยเป็นรัฐบาลมาก่อนจะช่วยสร้างความมั่นใจในการปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จได้มากกว่าพรรคที่ไม่เคยเป็นรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเชื่อว่า ควรให้โอกาสพรรคใหม่ทำงานร่วมกับพรรคที่มีประสบการณ์ ขณะที่ตัวแทนพรรคก้าวไกลเชื่อว่า พรรคการเมืองเดิมยังไม่สามารถปฏิรูปการศึกษาได้ ดังนั้นจะมีประสบการณ์หรือไม่ ขอให้มองที่ข้อเสนอและสิ่งที่พรรคการเมืองตั้งใจที่จะทำให้ลุล่วงได้ตามแผนที่สัญญาไว้กับประชาชน

 

ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมดีเบต มีโชว์พิเศษระหว่างพักครึ่งจากวง Scrubb บรรยากาศเต็มไปด้วยกองเชียร์จากพรรคการเมืองต่างๆ ที่มาเชียร์ตัวแทนพรรคการเมืองอย่างครึกครื้น

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X