วันนี้ (24 มีนาคม) ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก ปภาณษิณ ปิ่นแก้ว หัวหน้ากลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ และคณะ โดยมี เคท ครั้งพิบูลย์ อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมรับมอบด้วย เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจำพวกผ้าอนามัยให้มีความเป็นธรรมต่อเพศหญิงมากขึ้น
ปภาณษิณกล่าวว่า ผ้าอนามัยในประเทศไทยถูกจัดเป็นสินค้าควบคุมและเป็นสินค้าที่จำเป็น ซึ่งต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 หรือ VAT 7% ถือเป็นการดำเนินการเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรมต่อสตรี โดยการมีประจำเดือนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมหรือหลีกเลี่ยงได้ เพราะเป็นกลไกตามธรรมชาติของเพศ ซึ่งต้องมีการดูแลให้ถูกสุขลักษณะเพื่อสุขภาพของสตรีทุกคน ดังนั้น การดำเนินการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยจึงไม่เป็นธรรมสำหรับเพศหญิง อีกทั้งยังส่งผลกระทบให้การใช้ผ้าอนามัยที่ถูกตามหลักสุขลักษณะลดลง และทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนที่เป็นเพศหญิงอย่างเห็นได้ชัดเจน ประกอบกับในปัจจุบันประชาชนกำลังประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางกลุ่มจึงขอเสนอยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่มในสินค้าจำพวกผ้าอนามัยทุกชนิด และจัดหาผ้าอนามัยแจกในสถานศึกษาระดับโรงเรียน เพราะเป็นวัยที่ยังไม่มีรายได้
ด้านธัญวัจน์กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทย แต่ในหลายประเทศก็กำลังประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสุขภาวะที่ดีของเพศหญิงเช่นกัน จึงจะนำข้อเสนอของกลุ่มลดความเหลื่อมล้ำทางเพศเข้าสู่การพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการอย่างรอบด้านในทุกมิติตามกรอบอำนาจหน้าที่ และจะหาทางผลักดันเพื่อให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล