แคนาดาเริ่มตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยมาตรการเก็บภาษีอากรกับสินค้านำเข้ามูลค่า 1.25 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุมสินค้าหมวดเหล็กที่อัตรา 25% และสินค้าอื่นๆ อีกรวมกว่า 80 รายการ ตั้งแต่เมล็ดกาแฟไปจนถึงแยมสตรอว์เบอร์รีในอัตรา 10%
กำแพงภาษีของแคนาดามีจุดประสงค์เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ หลังจากที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากแคนาดาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่แคนาดาเป็นประเทศผู้ส่งออกเหล็กรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดาเคยกล่าวในเดือนที่แล้วว่า มาตรการภาษีถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแคนาดาเพื่อลงโทษสหรัฐฯ กับสิ่งที่ก่อขึ้น
นอกจากแคนาดาแล้ว สหรัฐฯ ยังตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU), เม็กซิโก, ตุรกี, อินเดีย และจีนด้วย โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เนื่องจากสหรัฐฯ ทำผิดกฎกติกา ขณะเดียวกันประเทศเหล่านี้ยังงัดมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ด้วย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว EU ได้ขยายกำแพงภาษีสินค้านำเข้าครอบคลุมตั้งแต่เนยถั่ว น้ำส้ม เบอร์เบิน ไปจนถึงรถจักรยานยนต์ ขณะที่เม็กซิโกก็ประกาศมาตรการภาษีกับสหรัฐฯ เช่นกัน ส่งผลให้สงครามการค้าไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ
อ้างอิง: