วันนี้ (14 กรกฎาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดประชุมคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ในวันนี้ โดยยืนยันว่ากรรมาธิการไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งของประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขอความร่วมมือให้งดการประชุม โดยมองแล้วว่าสภาไม่ได้ห้าม แต่เป็นการขอความร่วมมือเท่านั้น และงานของกรรมาธิการ ป.ป.ช. มีความจำเป็น และก่อนหน้านี้ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงแล้ว
ในการประชุมคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. วันนี้ได้เชิญ กุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากรในขณะนั้นเข้าชี้แจงและแถลงข้อเท็จจริง กรณีภาษีและนาฬิกาหรู 25 เรือนของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยทางกรรมาธิการพบข้อมูลและหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยังไม่ได้ดำเนินการให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามกระบวนการ จึงต้องรื้อฟื้นคดีนาฬิกาหรูขึ้นพิจารณาใหม่อีกครั้ง ซึ่งรวมถึงคดีของ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐคนหนึ่ง กรณีไม่คืนเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นกว่า 400 ล้านบาท
นอกจากนั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ได้เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมแจ้งความดำเนินคดีในท้องที่ต่างๆ เอาผิด พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และมาตรา 55 ในการดูแลประชาชนในสถานการณ์โควิด ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในแคมเปญ มอบ 157 ให้นายกฯ
“นอกจากนั้นยังขอให้ประชาชนร่วมนำหลักฐาน ทั้งค่าใช้จ่ายในการซื้อหน้ากากอนามัยหรือใบเสร็จการฉีดวัคซีน ตลอดจนผู้ค้าขายที่ได้รับผลกระทบหรือขาดทุน ปิดกิจการ ซึ่งเป็น 1 ใบเสร็จต่อ 1 คดี เพื่อร่วมกันทำให้ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ถูกดำเนินคดีมากที่สุดในโลก โดยตำรวจไม่ต้องหาหลักฐานอะไรมาก แค่รับแจ้งความ เขียนคำให้การส่ง ป.ป.ช. เพื่อส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามขั้นตอนต่อไป” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการเดินขบวนของคนรุ่นใหม่ หรือคณะไทยไม่ทนและกลุ่มต่างๆ เพื่อขับไล่ พล.อ. ประยุทธ์ ไม่สำเร็จ เป็นเพราะจะถูกยัดข้อหาหรือดำเนินคดีเมื่อเรื่องไปถึงศาลก็ไม่ให้ประกันตัวสู้คดีอีก และยังอาจติดโควิคมาจากคุก จึงถือว่าไม่คุ้ม จึงต้องใช้การดำเนินคดีฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้พ้นจากตำแหน่ง