ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ประยุทธ์ 5 หลังการลาออกของ พล.อ. ศิริชัย ดิษฐกุล รมว. กระทรวงแรงงาน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560
2 พฤศจิกายน 2560 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มีกรรมการบริษัท (บอร์ด) ลาออก 2 คน คือ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม และ นายคณิศ แสงสุพรรณ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป
การลาออกจากตำแหน่งบอร์ดการบินไทยของทั้ง 2 คนเป็นไปอย่างกะทันหันทั้งๆ ที่ไม่มีปัญหาขัดแย้งใดๆ ในการทำงาน อีกทั้งยังสอดคล้องกับช่วงเวลาที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีด้วย
สำหรับ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน ในสมัยรัฐบาล คสช. และเคยทำหน้าที่ปลัดกระทรวงการคลังในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่มีกระแสข่าวว่าไม่สามารถทำงานตอบสนองนโยบายของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว. กระทรวงการคลังในยุคนั้นได้
ขณะที่ นายคณิศ แสงสุพรรณ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ถือเป็นโครงการเรือธงด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช. ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี คาดหวังกับโครงการนี้ไว้มาก และให้ความไว้วางใจนายคณิศขับเคลื่อนการทำงานอย่างเต็มที่
ความเคลื่อนไหวอีกด้านที่มองข้ามไม่ได้ คือ พล.อ. ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ รฟม. ดีกรีเพื่อนเตรียมทหาร (ตท. 12) และ จปร. 23 รุ่นเดียวกับ พล.อ. ประยุทธ์
รายงานข่าวจาก รฟม. แจ้งว่า พล.อ. ยอดยุทธ ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ รฟม. เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งภายในองค์กร โดยเฉพาะเรื่องการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. คนใหม่ เนื่องจากผู้มีอำนาจต้องการผลักดันคนนอกองค์กรเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. ขณะที่คนใน รฟม. ต้องการให้คนในที่รู้งานเข้ามาทำหน้าที่มากกว่า จนทำให้การสรรหาผู้ว่าการ รฟม.ยืดเยื้อออกไป
สำหรับ พล.อ. ยอดยุทธ ยังถือเป็นเพื่อนรักของ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเคยช่วยงาน พล.อ. ฉัตรชัย ในสมัยเป็นรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ โดยได้รับมอบหมายให้ดูแลสินค้าเกษตร
การปรับ ครม. ประยุทธ์ 5 ที่จะมาถึงนี้ ชื่อของ พล.อ. ยอดยุทธ กลับมาติดโผอีกครั้ง โดยสื่อบางสำนักใส่ชื่อ พล.อ. ยอดยุทธ ติดโผนั่งเก้าอี้เจ้ากระทรวงแรงงาน แทน พล.อ. ศิริชัย ที่เพิ่งลาออกไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาแย้มว่า การปรับ ครม. ครั้งนี้อาจทบทวนลดจำนวนรัฐมนตรีสายทหารลง ขณะที่ พล.อ. ยอดยุทธ บอกกับสื่อมวลชนว่า “ยังไม่มีใครทาบทามให้ไปเป็นรัฐมนตรี”
ขณะเดียวกันในส่วนของรัฐมนตรีที่ถูกจับตาอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอยู่ในข่ายที่อาจถูกปรับออก เนื่องจาก กกต. เสนอให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามคำร้องที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรี 9 ราย คือ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว. ต่างประเทศ, นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว. คลัง, หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รมช. ศึกษาธิการ, นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), พล.อ. ศิริชัย ดิษฐกุล รมว. แรงงาน, นายอุตตม สาวนายน รมว. อุตสาหกรรม, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช. พาณิชย์, และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ถือครองหุ้นและมีการกระทำการที่เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามหมวด 9 ของรัฐธรรมนูญ อาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ขาดคุณสมบัติพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 264 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ
โดย 1 ใน 9 รมต. ที่ได้ลาออกไปแล้วก็คือ พล.อ. ศิริชัย ดิษฐกุล รมว. แรงงาน ขณะที่มีรายงานจากแหล่งข่าวด้วยว่า การปรับ ครม. ครั้งนี้อาจเป็นการใช้เทคนิคทางกฎหมายเพื่อย้ายสลับหรือให้รัฐมนตรีบางตำแหน่งออกก่อนเพื่อให้พ้นจากกรณีการถือหุ้นตามรัฐธรรมนูญ
ต้องรอดูว่าที่สุด 9 รัฐมนตรีที่มีรายชื่อนี้จะถูกปรับเปลี่ยนมากขนาดไหน เพราะ ต้องไม่ลืมว่ามือกฎหมายของรัฐบาลนี้คือ นายวิษณุ เครืองาม ซึ่งอยู่ในข่ายนี้ด้วยเช่นกัน