×

ครม. รับรองแผนที่ One Map 11 จังหวัด เร่งแก้เขตที่ดินรัฐทับซ้อน-รุกป่า ออกแนวทางลดผลกระทบประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
22.11.2022
  • LOADING...

วันนี้ (22 พฤศจิกายน) ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบผลดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และรับรองเส้นแนวเขตที่ดินของรัฐ กลุ่มจังหวัดที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย 

 

จังหวัดจันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ชัยนาท, ตราด, นครนายก, นครสวรรค์, ระยอง (ยกเว้นกรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด), ลพบุรี, ศรีสะเกษ และสระบุรี (จากทั้งหมด 7 กลุ่มจังหวัด กลุ่มละ 11 จังหวัด) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อนของหน่วยงานรัฐที่ประกอบด้วย 9 หน่วยงาน 

  1. กรมป่าไม้
  2. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 
  3. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
  4. กรมพัฒนาที่ดิน
  5. กรมธนารักษ์ 
  6. กรมที่ดิน 
  7. กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ 
  8. กรมส่งเสริมสหกรณ์
  9. สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 

 

เพื่อแก้ปัญหาที่แต่ละหน่วยงานมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ และใช้มาตราส่วนในแผนที่แนบท้ายกฎหมายแตกต่างกัน จึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ โดยกลุ่มจังหวัดที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด มีพื้นที่หลังปรับปรุงแนวเขตฯ รวม 18,954,338 ไร่

 

ทิพานันกล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของขนาดพื้นที่ของหน่วยงานรัฐต่างๆ มีได้หลายสาเหตุ เช่น 

 

  1. ปรับแก้ข้อมูลพื้นที่กันออกตามกฎกระทรวงที่ให้เพิกถอนป่าออกจากการเป็นป่าสงวนแห่งชาติ แต่ยังปรากฏว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติในแผนที่ท้ายกฎกระทรวง

 

  1. ในเขตปฏิรูปที่ดินพบมีสภาพป่าสมบูรณ์ ที่ต้องคืนพื้นที่ป่าให้กรมป่าไม้ จึงให้ ส.ป.ก. กันคืนพื้นที่ป่าคืนให้กรมป่าไม้

 

  1. กรมธนารักษ์กันพื้นที่ในจังหวัดนครสวรรค์ (ที่ราชพัสดุใช้ในราชการทหาร พ.ศ. 2484) คืนให้นิคมสร้างตนเองที่ได้มีการประกาศตามกฎหมายแล้ว และมีผลกระทบกับสมาชิกนิคมและราษฎรในพื้นที่ที่ได้เอกสารสิทธิไปแล้ว เป็นต้น

 

ทิพานันกล่าวต่อไปว่า และเพื่อให้มีแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ กรณีแนวเขตที่ดินของรัฐซ้อนทับกับแนวเขตที่ดินที่มีเอกสารสิทธิหรือมีการเข้าครอบครองประโยชน์อยู่ 

 

ครม. จึงมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบฯ สำหรับใช้กับทุกกลุ่มจังหวัดเพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเดียวกัน โดยคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสม เป็นไปตามกฎหมาย และมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยมี 10 ข้อ สรุปได้ดังนี้

 

  1. การดำเนินโครงการปรับปรุงแผนที่ One Map ไม่ได้เป็นการยกเลิกเพิกถอนเอกสารสิทธิ หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินของประชาชน

 

  1. กรณีมีประชาชนได้รับผลกระทบหรือได้รับความเดือดร้อน ให้ดำเนินการตามข้อ 3-7 เพื่อแก้ไขปัญหาให้ยุติโดยเร็ว

 

  1. กรณีมีที่ดินของหน่วยงานของรัฐที่จัดสรรให้กับประชาชนตามกฎหมายต่างๆ นอกเขตพื้นที่ตามกฎหมาย หรือนอกเขตดำเนินการของหน่วยงานนั้น เช่น ที่ดิน ส.ป.ก. นิคมสหกรณ์ นิคมสร้างตนเอง เป็นต้น 

 

แต่อยู่ในเขตที่ดินของรัฐประเภทอื่น เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน ป่าไม้ถาวร ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณประโยชน์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาร่วมกันเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 

 

และกรณีประชาชนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินมีข้อโต้แย้งให้พิจารณาดำเนินการพิสูจน์สิทธิตามกฎหมายหรือตามมาตรการ แนวทางที่ คทช. กำหนด พร้อมกับหาแนวทางแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนให้เป็นไปตามกฎหมาย เหมาะสม ตามควรแก่กรณี

 

  1. การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลน นอกจากกรณีในข้อ 3 สามารถใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาตามมติ ครม. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561

 

  1. การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบที่อยู่ในเขตที่ราชพัสดุ และที่สาธารณประโยชน์ นอกจากกรณีในข้อ 3 และ 4 สามารถใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาโดยการจัดให้เช่า การอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดิน หรือแนวทางอื่นที่เหมาะสม

 

  1. กรณีเกี่ยวกับเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน ให้กำหนดแนวทางปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมที่ดินและกรมป่าไม้ ว่าด้วยการตรวจพิสูจน์เพื่อออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งเกี่ยวกับเขตป่าไม้ พ.ศ. 2534

 

ในการนำข้อมูลระวางแผนที่ของกรมที่ดินที่ได้มีการขีดเขตและลงชื่อรับรองแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าชายเลน ป่าไม้ถาวร มาประกอบการพิจารณา

 

  1. กรณีที่มีประชาชนมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิ หรืออ้างว่ามีสิทธิในเขตที่ดินของรัฐ เพื่อความเป็นธรรม หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิในที่ดินได้

 

  1. กรณีที่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินของรัฐ มีความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาไม่ตรงกัน และไม่สามารถหาข้อยุติได้ ให้เสนอเรื่องต่อคณะอนุกรรมการภายใต้ คทช. ที่เกี่ยวข้อง และเสนอ คทช. พิจารณา

 

เพื่อกำหนดมาตรการ แนวทางการให้ช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน หรือเยียวยาอย่างเหมาะสม เป็นธรรม ตามกฎหมาย หรือมติ ครม. ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนในมิติต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วย

 

  1. ประชาสัมพันธ์ให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้สนใจโดยทั่วไปทราบวัตถุประสงค์ของโครงการปรับปรุงแผนที่ One Map ซึ่งจะไม่กระทบต่อเอกสารสิทธิที่ประชาชน หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับโดยชอบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

 

หากแต่จะมีผลดีในภาพรวม ทำให้ประเทศไทยมีแนวเขตที่ดินของรัฐที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้ง ประชาชนตรวจสอบได้สะดวก เกิดความเชื่อมั่น สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้อย่างเต็มศักยภาพ

 

  1. แนวทางดังกล่าว ให้นำไปปฏิบัติกับทุกกลุ่มจังหวัด เพื่อให้เป็นไปในแนวทาง และมาตรฐานเดียวกัน โดยการแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐจะไม่ทำให้ทางราชการเสียหายหรือเสียประโยชน์ รวมถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่ โดยให้โอกาสที่จะพิสูจน์สิทธิเป็นพื้นฐาน และจะไม่ลิดรอนสิทธิของประชาชน
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising