วันนี้ (29 ตุลาคม) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ ครม. อนุมัติหลักเกณฑ์เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลที่อพยพมาในราชอาณาจักรไทยเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรไทย เพื่อทดแทนมติ ครม. เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 ซึ่งปัจจุบันมีผู้อพยพมาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นเวลานาน กลุ่มแรกคือตั้งแต่ปี 2527-2542 มีประมาณ 120,000 คน และกลุ่มที่ 2 เมื่อปี 2548-2554 มีประมาณ 215,000 คน
ส่วนกลุ่มที่ 3 กลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรไทยของชนกลุ่มน้อย มีประมาณ 29,000 คน และกลุ่มที่ 4 กลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักรไทยของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน โดยมีการสำรวจไปแล้วประมาณ 113,000 คน รวมทั้งหมด 483,000 คน
จิรายุกล่าวอีกว่า วันนี้ ครม. พิจารณาลดขั้นตอนต่างๆ เพราะหากต้องพิจารณาทั้ง 483,000 คน อาจใช้เวลานานถึง 44 ปี
ส่วนที่มีข้อสังเกตว่า การให้สัญชาติแล้วอาจทำให้ประเทศไทยเกิดผลกระทบหรือไม่นั้น จิรายุกล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบในหลักการ และส่งให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ประกาศบังคับใช้ในรายละเอียดไม่น้อยกว่า 30 วัน และไม่เกินกว่า 60 วัน
จิรายุกล่าวว่า คนทั้ง 483,000 คนนี้อยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน สามารถทำงานปกติและมีเอกสารสำคัญ ไทยจึงมีความเห็นว่าควรจะทำให้ถูกต้อง เพื่อให้คนเหล่านี้สัญจรไป-มาและกระตุ้นเศรษฐกิจ รู้ถิ่นฐานที่อยู่ ที่ไปที่มาของคนเหล่านี้ จึงเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน