ความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบินที่ SQ321 ซึ่งเดินทางมาจากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีจุดหมายปลายทางที่ประเทศสิงคโปร์ ขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 15.51 น. โดยตรวจสอบพบว่าเครื่องบินตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายรายและมีผู้เสียชีวิต
วันนี้ (21 พฤษภาคม) กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) แถลงข่าวระบุว่า ขณะเกิดเหตุคาดว่าเป็นช่วงรับประทานอาหารเช้า เท่าที่ทราบผู้โดยสารส่วนใหญ่คาดเข็มขัดนิรภัย
ทางสนามบินสุวรรณภูมิได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยประสานไปยังแพทย์เพื่อสำรวจ และพบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงผู้เสียชีวิต จึงขออนุมัติเข้าแผนฉุกเฉิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้าสู่พื้นที่และอพยพผู้โดยสารในทันที ยืนยันไม่มีผู้โดยสารชาวไทย
กิตติพงศ์กล่าวต่อว่า เหตุดังกล่าวยืนยันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาวคูเวต อายุ 73 ปี มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ เสียชีวิตตั้งแต่บนเครื่อง โดยได้นำร่างส่งโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เพื่อชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 60 ราย แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บวิกฤต 7 ราย ส่วนใหญ่ศีรษะแตก ผู้บาดเจ็บปานกลาง 23 ราย รวมลูกเรือ 1 ราย โดยได้นำส่งไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงสนามบิน ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 30 รายอยู่ในพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
ขณะนี้มีผู้โดยสารกว่า 200 รายที่เตรียมโดยสารเครื่องบินที่ทาง Singapore Airlines ส่งมารับกลับไปยังปลายทางที่ประเทศสิงคโปร์ในวันนี้ เวลา 21.45-22.00 น.
กิตติพงศ์กล่าวว่า หลังจากนี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจะเข้าสอบสวนอุบัติเหตุกับนักบินต่อไป โดยสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ห่วงใยในความปลอดภัยของผู้โดยสาร และกำชับให้ทางสนามบินสุวรรณภูมิดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคนให้ดีที่สุด เน้นย้ำให้ขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วและตามมาตรฐาน พร้อมยืนยันว่าการปฏิบัติต่างๆ ในทางการแพทย์เป็นไปได้ด้วยดีและรวดเร็ว
