เรียกได้ว่าเพิ่มอุณหภูมิแก่สมรภูมิการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเดือดไปอีกขั้น เมื่อ BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ทางบริษัท Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett สนใจเข้าไปลงทุน ได้ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ถึงระบบเทคโนโลยีใหม่สำหรับการทรงตัวในการขับขี่รถผ่านภูมิประเทศที่ขรุขระ เลี้ยวหักศอก และแม้แต่น้ำตื้น
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยีการดูดซับแรงกระแทกที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิด ‘10 อันดับ’ รถยนต์ EV ที่ยอดจองสูงสุดจากงานมอเตอร์โชว์ 2023 ค่ายรถจีนกวาดเพียบ!
- อีก 12 ปี หรือภายในปี 2035 ยอดขาย ‘รถยนต์ EV’ ทั่วโลก จะขยับขึ้นมาครองส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 50%
- ค่ายรถ EV ยักษ์ใหญ่จีนมาอีกราย ‘GAC AION’ ทุ่ม 6.4 พันล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตที่ EEC
- Tesla สร้างโรงงานเก็บแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่เซี่ยงไฮ้ ฟาก Foxconn ทุ่ม 820 ล้านดอลลาร์ สร้างโรงงาน EV
โดยในเบื้องต้น BYD ตั้งเป้าติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าวในรุ่น Yangwang แบรนด์ระดับพรีเมียมที่เพิ่งเปิดตัวของบริษัท แต่จะมีการอัปเกรดให้กับรถของบริษัทในรุ่น Han, Tang และ Denza ต่อไป
Wang Chuanfu ผู้ก่อตั้ง BYD กล่าวว่า โดยปกติแล้วรถยนต์หรูทั่วไปจะถูกกำหนดโดยแบรนด์และประวัติของผู้ผลิต แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า คุณสมบัติที่จะกำหนดความหรูหราก็คือเรื่องของเทคโนโลยี พร้อมกล่าวว่า เทคโนโลยีตัวใหม่ล่าสุดของ BYD ทำให้บริษัทมีความก้าวหน้า และอยู่ในแนวหน้าด้านเทคโนโลยีที่เหนือกว่าต่างประเทศ
รายงานระบุว่า ส่วนหนึ่งของระบบเทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ใช้เซ็นเซอร์ ‘LiDAR’ แบบเดียวกับที่ใช้ในระบบช่วยขับขี่ ตามข้อมูลของ BYD LiDAR ย่อมาจาก ‘การตรวจจับแสงและการวัดระยะ’ ใช้เลเซอร์เพื่อสร้างแผนที่โดยละเอียดของพื้นที่โดยรอบ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเทคโนโลยีไร้คนขับ ทาง BYD ค่อนข้างที่จะใช้ความระมัดระวังในการดำเนินการ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นก่อนงาน Shanghai Auto Show จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งทางบริษัทรถยนต์ของจีนหลายแห่งจะประกาศผลิตภัณฑ์และรุ่นต่างๆ ออกมาประชันกัน เห็นได้จากท่าทีของ BYD เมื่อถูกถามเกี่ยวกับ ‘Smart Driving’ ระหว่างการสนทนากับนักลงทุนเมื่อปลายเดือนมีนาคม ฝ่ายบริหารของ BYD กล่าวว่า การขับขี่อัตโนมัติยังคงเผชิญกับความท้าทายในการพิจารณาความรับผิดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ถึงกระนั้น ฝ่ายบริหารกล่าวว่า เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูงมีศักยภาพในการปรับปรุงความปลอดภัยโดยรวม สะท้อนให้เห็นว่า BYD ก็มีเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติเช่นกัน
สำหรับในไตรมาสแรก BYD กล่าวว่า บริษัทสามารถขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าได้ทั้งหมด 264,647 คัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 80% จากปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์นั่งแบบไฮบริดเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่แล้วเป็น 283,270 คันในไตรมาสแรก
อ้างอิง: