การแข่งขันวิ่งระดับโลก ‘บุรีรัมย์ มาราธอน 2020’ ปีที่ 4 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นการจัดมาราธอนระดับโลก เกรดบรอนซ์เลเบิลแห่งแรกของไทย โดยในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ออกสตาร์ทจากสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และเข้าเส้นชัยที่สนามฟุตบอลช้าง อารีนา แข่งขันทั้งสิ้น 3 ระยะทาง ได้แก่ ระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร, ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร, ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร
ไฮไลต์ของงานคือระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร โดยตลอดทางตั้งแต่จุดปล่อยตัวไปถึงเส้นชัยเต็มไปด้วยกองเชียร์จากประชาชนชาวบุรีรัมย์ที่ออกมาสร้างสีสันกันอย่างคึกคัก
สำหรับการแข่งขันรายการนี้เป็นสนามฟูลมาราธอนระดับบรอนซ์เลเบิลแห่งแรกของไทยที่ได้รับการรับรองโดยสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ ภายใต้แนวคิด ‘Your Ultimate Destination สวรรค์ของนักวิ่ง’ มีนักวิ่งเข้าร่วมแข่งขันกว่า 30,120 คน แบ่งเป็นมาราธอน 7,917 คน, ฮาล์ฟมาราธอน 0,836 คน, มินิมาราธอน 5,169 คน และฟันรัน 6,198 คน โดยมีนักวิ่งระดับอีลิทจากทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 29 คน รวมทั้งศิลปินดารา ได้แก่ แมทธิว ดีน, คู่รักสายฮา แหม่ม สุริวิภา-บ๊อบบี้ และลิฟท์ สุพจน์-หญิง นราวัลย์, ลิลลี่ แม็คกร๊าธ ฯลฯ รวมทั้งนักวิ่งทีมชาติไทย สัญชัย นามเขต และลินดา จันทะชิต นักวิ่งสาวไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรกในประเภทฟูลมาราธอน
ผลการแข่งขันระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ผู้ที่เข้าเส้นชัยคนแรก ฝ่ายชาย ได้แก่ คอร์เนลเลียส กิบิวอทท์ เชปกอก จากเคนยา ได้แชมป์ในรุ่น 18-29 ปีชาย ด้วยเวลา 2.11.46 ชั่วโมง ที่สอง บริมิน มิซอย นักวิ่งอีลิทจากเคนยา 2.12.19 ชั่วโมง ที่สาม อิวานส์ แซมบู นักวิ่งอีลิทจากเคนยา 2.13.16 ชั่วโมง
ส่วนแชมป์คนไทย ได้แก่ สัญชัย นามเขต ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ 2.26.54 ชั่วโมง คว้าแชมป์คนไทยเป็นปีแรก และได้ที่สองรุ่น 30-39 ปี ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
ฝ่ายหญิง แชมป์โอเวอร์ออลเป็นของ อิมมาคูเลท เชอร์มูไต จากอูกันดา ที่ได้แชมป์รุ่น 30-39 ปี ทำเวลาได้ 2.32.41 ชั่วโมง ที่สอง นิกิสต์ เดสต้า นักวิ่งอีลิทจากเอธิโอเปีย 2.32.56 ชั่วโมง ที่สาม ฮัลเลน เจบคูร์แกท นักวิ่งอีลิทจากเคนยา 2.33.25 ชั่วโมง ส่วนลินดา จันทะชิต ทำเวลาได้ 2.54.50 ชั่วโมง ได้แชมป์คนไทยอีกสมัย และได้แชมป์รุ่น 18-29 ปี
ด้าน สัญชัย นามเขต ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งได้แชมป์มาราธอนเป็นปีแรกกล่าวว่า พอใจมากกับการได้แชมป์รายการนี้ สำหรับมาราธอนลงแข่งเป็นปีแรกก็ได้แชมป์แล้ว ภูมิใจมากที่ได้รับถ้วยพระราชทาน ความรู้สึกแตกต่างจากตอนได้เหรียญเงินซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ สนามที่บุรีรัมย์นี้เส้นทางโอเค บรรยากาศดี แต่ตนประมาทตัวเองไปหน่อยช่วงแข่งขัน ตอนสตาร์ทออกตัวเร็วไปหน่อย ช่วงปลายจึงแผ่วๆ ส่วนแมตช์ทีมชาติ รอแข่งเอเชียนบีชเกมส์ที่จีนเป็นเจ้าภาพ ยังไม่แน่ใจว่าจะเลื่อนการแข่งขันหรือไม่ เพราะมีปัญหาเรื่องไวรัสโคโรนา
“สำหรับบุรีรัมย์มาราธอน ผมลงแข่งทุกครั้ง ก่อนหน้านี้แข่งฮาล์ฟมาราธอน ได้แชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ส่วนมาราธอนที่ผ่านมา แชมป์จะเป็น บุญถึง ศรีสังข์ เป็นชาวบุรีรัมย์ ถือเป็นเจ้าของบ้านด้วย แต่ผมเป็นคนสุรินทร์ บ้านใกล้เรือนเคียง รู้สึกดีใจมากที่ได้แข่งรายการนี้ที่ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่ดีที่สุดในไทย และครั้งนี้ทำเวลาได้ 2.26.54 ชั่วโมง ดีกว่าเวลาที่พี่บุญถึงทำไว้ 2.29 นาที โดยก่อนหน้านี้ผมเพิ่งทำลายสถิติตัวเองในการแข่งขันวิ่งผ่าเมือง แต่การวิ่งต่อเนื่องหลายรายการทำให้ร่างกายระบม แต่เวลาที่ทำได้กลับออกมาดี ยิ่งรายการนี้แข่งมาราธอนเป็นปีแรกและได้แชมป์ด้วย”
ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ฝ่ายชาย ที่หนึ่ง แมทธิว แซมเปรู 1.03.46 ชั่วโมง ได้แชมป์รุ่น 18-29 ปี ที่สอง เคนเนธ กิเบธ โรโน 1.05.35 ชั่วโมง ที่สาม อีซาคีล เยโก 1.07.44 ชั่วโมง ส่วน บิ๊ก-ณัฐวุฒิ อินนุ่ม คู่แฝดทีมชาติชุดซีเกมส์ และได้แชมป์คนไทยคนแรกด้วยเวลา 1.07.58 ชั่วโมง
ฝ่ายหญิง ที่หนึ่ง เอสเธอร์ คาริมี 1.16.26 ชั่วโมง ที่สอง อลิซ คอยกี 1.17.33 ชั่วโมง ที่สาม อีไฮนาห์ มูตาฮี 1.19.36 ชั่วโมง ส่วนแชมป์คนไทย ฝน-ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ อดีตทีมชาติไทย ทำเวลาได้ 1.24.46 ชั่วโมง
ด้าน บิ๊ก-ณัฐวุฒิ อินนุ่ม นักวิ่งทีมชาติไทยแฝดผู้พี่ เปิดเผยว่าดีใจมากที่ได้แชมป์คนไทยคนแรกของฮาล์ฟมาราธอน ก่อนหน้านี้ได้รับใช้ทีมชาติในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ แต่ได้ที่ 6 ส่วนบุรีรัมย์ มาราธอน แข่งมาทุกครั้ง ได้แชมป์มินิมาราธอน แต่ครั้งที่แล้วป่วย ไม่ได้มาแข่ง แต่ก่อนหน้านี้ได้แชมป์มาตลอด คว้าแชมป์มาเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกันในประเภทมินิมาราธอน ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มาแข่งในประเภทฮาล์ฟมาราธอน ชอบบรรยากาศการแข่งขันรายการนี้มากๆ
ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร ฝ่ายชาย ที่หนึ่ง เจมส์ การันจา 30.13 นาที ที่สอง ฟรานซิส นาดูตา 30.49 นาที ที่สาม อีนอค คีเกน 31.14 นาที แชมป์คนไทย เบล-ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม แฝดผู้น้อง ทำเวลาได้ 31.28 นาที
ฝ่ายหญิง ที่หนึ่ง วรพรรณ นวลศรี นักวิ่งทีมชาติไทย 38.29 นาที ที่สอง สุวณี คำชนะ 39.23 นาที ที่สาม สุณีกา ปรีชาโปร่ง 40.11 นาที
ด้าน เบล-ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม ฝาแฝดผู้น้อง กล่าวว่าปีนี้ดีใจมากที่ได้ที่ 1 ประเภทมินิมาราธอนในบุรีรัมย์ มาราธอน ครั้งนี้ ได้แชมป์มาแล้ว 2 ครั้งคือครั้งก่อนและครั้งนี้ สำหรับบุรีรัมย์ มาราธอน ลงแข่งมา 4 ครั้งแล้ว บรรยากาศดีมากๆ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์