วันนี้ (16 พฤษภาคม) ที่วัดสุทธาโภชน์ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง โดยเมื่อเดินทางมาถึงกฤษดาได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของเนติพรประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
กฤษฎางค์ระบุว่า แพทย์ผ่าพิสูจน์ร่างของบุ้ง และส่งเนื้อเยื่อ เลือด และสารคัดหลั่ง ไปที่ห้องปฏิบัติการแล้ว ผลการตรวจสอบส่วนนี้ยังไม่เสร็จสิ้น แต่ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ออกใบแจ้งสาเหตุการตายเบื้องต้น ระบุว่า
สาเหตุการเสียชีวิตมี 3 ข้อ ได้แก่
- ภาวะหัวใจล้มเหลวโดยเฉียบพลัน
- ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ
- ภาวะหัวใจโต ซึ่งโรงพยาบาลได้หมายเหตุไว้ว่า ผลที่แน่ชัด ต้องรอผลจากห้องปฏิบัติการ ส่วนในกระเพาะอาหารยืนยันว่าไม่พบอาหาร
กฤษฎางค์กล่าวต่อว่า ครอบครัวและทนายความ ได้ขอประวัติการรักษาบุ้งจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในช่วง 5 วันสุดท้ายก่อนเสียชีวิต เพื่อตรวจสอบว่าบุ้งมีอาการอย่างไร มีการรักษาและการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง เพราะอาจสะท้อนถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้ แต่จนขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าว ทั้งที่นายกรัฐมนตรีรับปากกับครอบครัวไว้ว่าจะให้ความร่วมมือเพื่อความโปร่งใส ซึ่งเอกสารที่ขอไปเป็นสิ่งที่ต้องมีบันทึกไว้อยู่แล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นจึงทำให้ครอบครัวสงสัยว่า การรักษาพยาบาลไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีสิ่งใดที่แทรกแซงการทำงานของร่างกาย หรือมีการประมาทเลินเล่อระหว่างการรักษาเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่ามีความกังวลว่าเอกสารที่จะได้หลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือไม่ด้วย
กฤษฎางค์กล่าวว่า ครอบครัวและทนายความได้รับเอกสารประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ แล้ว ซึ่งระบุไว้ว่า ตอนที่รับตัวบุ้งมาช่วงเช้าของวันที่ 14 พฤษภาคม บุ้งไม่มีสัญญาณชีพแล้ว หมายความว่าไม่มีสิ่งที่บ่งบอกการมีชีวิตอยู่ ไม่มีชีพจร ไม่หายใจ ซึ่งภาษาทั่วไปคือ ตายมาแล้วก่อนมาถึงมือแพทย์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ การช่วยเหลือหลังจากนั้นเป็นการช่วยเหลือเพื่อหวังปาฏิหาริย์เท่านั้น
จากข้อมูลที่ได้มาได้นำไปขอความเห็นจากแพทย์ภายนอก ซึ่งมีรายงานจากแพทย์สรุปมาเป็นหลักฐานว่า การรักษาพยาบาลระหว่างทางที่ส่งตัวมานั้นเป็นการรักษาที่ผิดพลาด และมีหลักฐานด้วยว่าทางราชทัณฑ์ทราบอยู่แล้วว่าบุ้งเสียชีวิตตั้งแต่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนรายละเอียดหลักฐานของ 2 ส่วนนี้ ตนขอยังไม่เปิดเผยในตอนนี้
กฤษฎางค์กล่าวว่า ช่วงที่บุ้งยังมีชีวิต เวลาที่เข้าไปเยี่ยม แพทย์ไม่เคยแจ้งว่าบุ้งมีความเสี่ยงภาวะต่างๆ มาก่อน มีเพียงบุ้งเองที่บอกว่ามีอาการขาบวมและปวดขา