×

ส่องไกด์ไลน์บุนเดสลีกา เตรียมความพร้อมก่อนลุ้น ‘ลูกหนังเปิดเมือง’ วันที่ 9 พฤษภาคม

24.04.2020
  • LOADING...

ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ศึกลูกหนังบุนเดสลีกา เยอรมัน จะเป็นลีกแรกของยุโรปที่จะกลับมาแข่งขันกันต่อ (นอกเหนือจากลีกเบลารุส ที่แข่งขันตามปกติจนถึงเวลานี้!) หลังจากที่ทางด้านสมาคมฟุตบอลลีกเยอรมัน (DFL) ได้จัดเตรียมแผนการทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

แผนการทุกอย่างได้มีการเตรียมการเอาไว้พร้อมทั้งหมดแล้ว หลังจากที่มีการเริ่มต้นวางแผนจะกลับมาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และในการประชุมล่าสุดระหว่างตัวแทนสโมสรทั้ง 36 ทีม (2 ดิวิชัน) เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ทุกฝ่ายเห็นด้วยกับแผนการทั้งหมด แม้ว่าทางด้านนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล จะเตือนว่า การอนุญาตให้มีการกลับมาแข่งฟุตบอลได้ในบางแคว้นจะเป็นการผ่อนปรนมาตรการเร็วเกินไป และอาจส่งผลร้ายได้

 

สำหรับ ‘ดีเดย์’ ที่ DFL คาดหวังไว้คือ การกลับมาลงสนามให้ได้อีกครั้งในวันที่ 9 พฤษภาคม และแข่งขันต่อเนื่องไปจนจบฤดูกาลในวันที่ 27-28 มิถุนายน ที่เหลือนั้นอยู่ที่ฝ่ายการเมืองและสาธารณสุขจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะถึงเวลาที่บุนเดสลีกาจะกลับมาได้หรือยัง

 

“ถ้าเราจะเริ่มในวันที่ 9 พฤษภาคมเลย เราก็พร้อม แต่ถ้าจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นเราก็พร้อมเช่นกัน สำหรับเราแล้ว การตัดสินใจขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมือง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา” คริสเตียน ไซเฟิร์ต ประธานบริหาร DFL กล่าวในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

 

“เกมการแข่งที่ไม่มีแฟนบอลในสนามไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ แต่ในเวลานี้ดูเหมือนมันจะเป็นทางเดียวที่เป็นไปได้”

 

ไกด์ไลน์ที่ DFL เตรียมไว้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

 

  1. การแข่งขันจะจัดขึ้นในสนามปิด (Closed Doors) ไม่อนุญาตให้มีแฟนบอลเข้ามาชมในสนาม
  2. ในแต่ละเกมจะมีจำนวนผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสนามและอยู่รอบสนามเพียงแค่ 322 คน สำหรับเกมในระดับบุนเดสลีกา และ 270 คน สำหรับเกมในระดับบุนเดสลีกา 2 (ดิวิชัน 2)
  3. คนที่ได้รับอนุญาตประกอบไปด้วย นักฟุตบอล, โค้ช, สตาฟฟ์, ผู้ตัดสิน, ผู้สื่อข่าว, ช่างภาพ, เจ้าหน้าที่ตรวจหาสารกระตุ้น, สจวร์ต, เจ้าหน้าที่สนาม และเด็กเก็บบอล
  4. มีการแบ่งโซนสนามออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนด้านในสนาม, โซนอัฒจันทร์ และโซนด้านนอกสนาม โดยแต่ละโซนจะจำกัดจำนวนคนที่ประมาณ 100 คน
  5. ทีมจะแยกกันเดินทางมาที่สนาม
  6. กิจกรรมก่อนเกม เช่น การจับมือ การถ่ายภาพทีม การจูงมาสคอตเข้าสนาม จะถูกยกเลิกทั้งหมด
  7. เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย
  8. มีการติดตั้งซิงก์ไว้ข้างสนาม เพื่อการรักษาความสะอาด
  9. การนั่งในม้านั่งข้างสนามจะต้องมีการเว้นที่ว่าง 2-3 ที่ เพื่อรักษาระยะห่างทางกายภาพ
  10. เพื่อทำให้ไม่มีโอกาสติดเชื้อ ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์ โดยคาดว่าจะมีการใช้ชุดทดสอบจำนวน 25,000 ชุด รวมถึงผู้เล่นที่คาดว่าจะมีนักฟุตบอลจำนวน 1,100 คน ที่ถูกตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์
  11. วิธีการตรวจหาเชื้อจะทำโดยการตรวจเนื้อเยื่อในโพรงจมูกและลำคอ การทดสอบจะเกิดขึ้นในช่วงใกล้การแข่งขันให้มากที่สุดเท่าจะเป็นไปได้ สิ่งสำคัญคือ ผลการทดสอบจะต้องออกก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น แต่กระบวนการทดสอบทั้งหมดจะมีการหาข้อสรุปอีกครั้ง
  12. ชุดทดสอบแต่ละชุดมีราคา 90 ปอนด์ นอกจากนี้ยังจะมีการจัดเตรียมซิงก์น้ำข้างสนามและอุปกรณ์ป้องกันเชื้อสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ทั้งหมดจะใช้งบประมาณราว 2.2 ล้านปอนด์
  13. ก่อนเข้าสนามจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนด้วยเทอร์โมมิเตอร์วัดทางหู
  14. นักฟุตบอลอาจต้องทำความสะอาดชุดแข่งขันด้วยตัวเอง

 

 

อย่างไรก็ดี ยังมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงในเรื่องของการตรวจหาเชื้อ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่ยากที่สุดในการจะตรวจหาเชื้อ เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำที่สุด ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนชุดทดสอบที่จะใช้จะกระทบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศที่ต้องต่อสู้กับเชื้อไวรัสมหาภัยหรือไม่ 

 

ในเรื่องนี้ตามข้อมูลที่มีการเปิดเผยล่าสุด เยอรมนีมีการทดสอบโควิด-19 สัปดาห์ละ 640,000 ชุด ซึ่งจำนวนที่บุนเดสลีกาต้องการเป็นจำนวนเพียง 0.5% ของจำนวนชุดทดสอบทั้งหมดเท่านั้น

 

ส่วนนักฟุตบอลมีการเตรียมความพร้อมกันมาระยะหนึ่งแล้ว โดยแอร์เบ ไลป์ซิกกลับมาลงสนามฝึกซ้อมตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ขณะที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์มีการซ้อมส่วนตัวก่อนหน้านั้น 2 วัน ขณะที่จ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิกกลับมาซ้อมในศูนย์ฝึกเมื่อ 6 เมษายน แต่เป็นการซ้อมกลุ่มเล็ก และให้มีการรักษาระยะห่าง

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา DFL ยังได้ส่งไกด์ไลน์ 31 ข้อ สำหรับการฝึกซ้อมให้กับสโมสรทุกแห่ง โดยมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น แต่ละสโมสรจะต้องตั้งจุดตรวจโควิด-19 แบบไดรฟ์ทรูสำหรับนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ ห้องพักจะอนุญาตให้ใช้เฉพาะมีจำนวนผู้เล่นกลุ่มเล็กๆ และต้องรักษาระยะห่างระหว่างกัน 2 เมตร และห้ามมีการทานข้าวร่วมกัน

 

ถึงแม้ว่ามันจะดูยุ่งยากมาก แต่ถึงตรงนี้ทุกฝ่ายเข้าใจแล้วว่า นี่คือทางเดียวที่จะทำให้ฟุตบอลกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง

 

สิ่งที่ทุกฝ่ายทำได้คือ เตรียมพร้อม ยอมรับ และทำตัวให้ชินกับความปกติในรูปแบบใหม่ของเกมฟุตบอล

 

สำหรับการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นในวันที่ 30 เมษายนนี้

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

FYI
  • หากมีการอนุญาตให้กลับมาแข่งได้ในบางสัปดาห์ จะมีการแข่งกลางสัปดาห์ด้วย เพื่อให้โปรแกรมจบภายในเดือนมิถุนายน โดยรวมถึงโปรเกมฟุตบอลถ้วยเดเอฟเบโพคาล ที่ค้างในรอบรองชนะเลิศด้วย
  • หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่จะตามมาคือ การที่บรรดาผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์ไป ไม่ว่าจะเป็น Sky, ARD, ZDF เลื่อนการเงินให้ DFL เมื่อวันที่ 10 เมษายน ไปก่อน ส่งผลกระทบทางการเงินต่อสโมสรต่างๆ ไม่น้อย โดยกำหนดการชำระใหม่คือวันที่ 2 พฤษภาคม หากไม่กลับมาแข่งขันได้จะมีปัญหาทุกฝ่ายแน่นอน
  • BT Sport ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลบุนเดสลีกามาฉายในช่วงบ่าย 3 โมงของอังกฤษ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่มีการอนุญาตให้ถ่ายทอดสดฟุตบอลในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเดิมถูกห้ามไว้เรียกว่า Black Out
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X