วันนี้ (30 มีนาคม) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เผยแพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีอาคารที่ทำการ สตง. แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความรุนแรงของแผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้สูญหาย ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
สตง. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยภายหลังจากที่ได้รับรายงานกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สตง. ได้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ และจะได้เร่งดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นและแนวทางแก้ไข พร้อมชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ สตง. ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการแห่งใหม่พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ บนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ 3 งาน บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ดังนี้
การออกแบบอาคาร สตง. ได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงานตรวจเงินแผ่นดินและสภาพพื้นที่ โดยมีบริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ออกแบบด้วยวงเงิน 73 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2561
กระบวนการก่อสร้างอาคาร สตง. ได้เสนอขออนุมัติงบประมาณรายการค่าก่อสร้าง เป็นจำนวนเงิน 2,560 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ต่อมาได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และได้ผู้ชนะการประกวดราคา ได้แก่ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด) ซึ่งเป็นผู้เสนอราคารายต่ำสุด ด้วยวงเงิน 2,136 ล้านบาท และได้ดำเนินการเบิกจ่ายมาแล้วทั้งสิ้น 22 งวด เป็นจำนวนเงินที่เบิกจ่ายไปแล้วทั้งหมด 966.80 ล้านบาท
จากกรณีที่มีข่าวว่า สตง. มีการปรับแก้ไขแบบก่อสร้างให้มีขนาดเล็กลง จนอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของอาคารนั้น สตง. ขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยแบบก่อสร้างที่ดำเนินการก่อสร้างในปัจจุบันเป็นแบบที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบและรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยเสาหน้าอาคารชั้น 1-3 มีขนาด 1.40 เมตร ส่วนเสาตั้งแต่ชั้นที่ 29 ถึงดาดฟ้าเป็นเสากลมขนาด 0.80 เมตร ทั้งหมดเป็นไปตามแบบแปลนที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น และไม่มีการปรับลดขนาดเสาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เพื่อให้โครงการก่อสร้างเป็นไปอย่างโปร่งใสและคุ้มค่า สตง. ได้จัดจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างจากกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งประกอบด้วย บริษัท พีบีเอเชีย จำกัด บริษัท เคพีเอ็นไอ จำกัด และบริษัท วิศวกรรมธรา จำกัด ด้วยวงเงิน 74.65 ล้านบาท พร้อมทั้งได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการทุจริตในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ด้วยการกำหนดให้คู่สัญญาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย สตง. ได้เร่งจัดตั้งศูนย์ประสานงานในพื้นที่เกิดเหตุ และประสานงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่
หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โทร. 0 2618 5755