ล่าสุดวันนี้ (28 มกราคม) เวลา 16.00 น. บิว-จักรพันธ์ พุทธา แถลงข่าวขอออกจากค่าย Be On Cloud หลัง ปอย-พรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ นักเขียนนิยายต้นฉบับ KinnPorsche The Series ปฏิเสธการเข้าร่วมงานแถลงข่าวไปเมื่อวานที่ผ่านมา
หลังจากเกิดกรณีพิพาทระหว่างนักเขียนสาวกับ บิว-จักรพันธ์ พุทธา นักแสดงตัวหลักของ KinnPorsche The Series ในเรื่องการทำร้ายร่างกาย ทาง Be On Cloud อดีตต้นสังกัดของนักแสดงหนุ่มก็ได้ออกประกาศจัดงานแถลงข่าวในวันนี้ ผ่านช่องทาง YouTube ของค่าย เพื่อเปิดพื้นที่ให้ปอยและบิวออกชี้แจงขอเท็จจริงกับสังคม
ซึ่งหลังจากนั้นปอยก็ได้โพสต์จดหมายว่าด้วยเรื่อง ‘การปฏิเสธการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงในทุกช่องทาง’ ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมแจ้งให้ Be On Cloud ต้นสังกัดของบิวและผู้ดำเนินการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ เพื่อยกเลิกการเข้าร่วมงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในจดหมายมีเนื้อความส่วนหนึ่งว่า
“นางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการทางกฎหมายกับนายจักรพันธ์ พุทธา เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นรายละเอียดข้อเท็จจริงและเอกสารที่เกี่ยวข้องทุกฉบับในทุกประเด็นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และการชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ อาจทำให้เสียหายต่อรูปคดีได้ อีกทั้งกรณีพิพาทที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่รับทราบโดยทั่วกันอยู่แล้ว กรณีนางสาวพรรธน์ชญมน ธีวสุเจริญ จึงขอปฏิเสธการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงในทุกช่องทาง”
นอกจากนี้ในช่วงท้ายของจดหมายยังมีการเสริมอีกว่า หากสิ่งที่บิวจะนำมาแถลงข่าวเพื่อชี้แจงในวันพรุ่งนี้เป็นเรื่องหรือเหตุการณ์ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือทำให้เกิดความเสียหายทางด้านชื่อเสียง ตนจะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อรักษาสิทธิต่อไป
ในส่วนของการแถลงข่าวของบิวในวันนี้ ใช้เวลาไลฟ์ผ่าน YouTube ของ Be On Cloud เพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น โดยเนื้อหาหลักคือการประกาศลาออกจากค่าย และปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่าจะนำเรื่องทั้งหมดไปต่อสู้ในชั้นศาล
“ในวันนั้นที่ผมออกมาพูด ผมมีเจตนาที่อยากจะยุติเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตผมมาสักระยะหนึ่งแล้วครับ จนถึงวันนี้ผมตัดสินใจว่าผมจะต้องออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองบ้าง
“สิ่งที่ทุกคนรับรู้หรือพบเห็นมันไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด ผมเองก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าสิ่งที่ปรากฏจะตีความว่าผมแย่แค่ไหนก็ตาม และสิ่งที่ผมโดนมันเกินกว่าที่ผมจะรับไหว ชีวิตผมต้องพังทลายลง ทั้งหน้าที่การงาน ชื่อเสียง สังคม ครอบครัว ทุกอย่าง ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้วครับ แม้กระทั้งตอนนี้ที่ผมนั่งหายใจอยู่ ผมก็ยังผิด ผมไม่สามารถทำอะไรไปมากกว่านี้ได้แล้วครับ
“สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือ ผมอยากให้ทุกคนทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง จากนี้ผมขอนำเรื่องทั้งหมดไปต่อสู้ในชั้นศาล ผมจะต่อสู้เพื่อคนที่ผมรักและคนที่ยังรักผม คนที่เชื่อมั่นในตัวผม รวมถึงครอบครัวและตัวผมเองด้วย ผมขอให้ทุกคนอดทน และผมก็จะอดทนและเข้มแข็งเพื่อรอผลคดีในชั้นศาล จากนี้ผมยังเชื่อว่าความจริงจะชนะในที่สุด และผมก็เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับผม”
อ้างอิง: