วันนี้ (29 พฤษภาคม) เวลา 09.00 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ที่มี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาทวาระแรก เป็นวันที่สอง
กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส. ชลบุรี ประกาศแยกทางจากพรรคประชาชน เมื่อ 13 พฤษภาคม และแสดงเจตนารมณ์ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 เกี่ยวกับการสร้างโครงสร้างงบประมาณด้านคมนาคม และการยกระดับเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน รวมถึงแนวทางการพัฒนาท้องถิ่น ตำบลบางพระ ศรีราชา สุรศักดิ์ ทุ่งสุขลา และอำเภอเกาะสีชังในจังหวัดชลบุรี
กฤษฎิ์กล่าวว่า งบประมาณปี 2569 นั้น กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณ 261,292.54 ล้านบาท โดยงบประมาณส่วนใหญ่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่นการขยายทางหลวงและการบำรุงรักษาเส้นทาง รวมถึงโครงการเพื่อการยกระดับความปลอดภัยบนถนน เช่น จุดพักรถ, จุดตรวจน้ำหนัก และงบประมาณบูรณาการในเขตอีอีซี ที่ตนเองรับผิดชอบโดยตรง
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนงบประมาณกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเชื่อมถนนสายรองสู่ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือเขตชายแดนไม่เพียงแค่ส่งเสริมการเดินทางเท่านั้นแต่ยังเป็นการสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชนอย่างแท้จริง
ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้นได้รับงบประมาณ 133,177 ล้านบาท โดยมีการจัดทำแผนงบประมาณแบ่งออกเป็น 3 นโยบายหลัก ได้แก่ นโยบายที่สถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริ รวมถึงนโยบายเร่งด่วนที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ของเกษตรกร เพื่อยกระดับเกษตรสมัยใหม่
ขณะที่นโยบายระยะกลางและระยะยาว ได้แก่ การจัดการที่ดิน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การขับเคลื่อนคาร์บอน Carbon neutrality และเศรษฐกิจเชิงรุก นอกจากนี้ยังมีการบริหารจัดการสินค้าทางการเกษตรอีก 14 รายการ ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ฮับ โดยจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรในระดับสากล
กฤษฎิ์กล่าวต่อว่า ในนามของผู้แทนของคนตำบลบางพระ ศรีราชา สุรศักดิ์ ทุ่งสุขลา และอำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ตนขอเสนอโครงการเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรทางน้ำ และชายฝั่ง รวมถึงปะการัง ซึ่งอยู่ในระหว่างที่กำลังเสื่อมโทรมลงอย่างมาก ให้มีการจัดสรรงบประมาณผ่านกรมประมงเพื่อผลิตพันธุ์สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปูหอย เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ รวมถึงจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชนในท้องถิ่น เพื่อฟื้นฟู ประชากรสัตว์น้ำในอ่าวมะขามแหลมฉบังในเขตพื้นที่ที่ตนเองรับผิดชอบ รณรงค์และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรในทะเล รวมถึงส่งเสริมอาชีพชาวประมงอย่างยั่งยืนให้กับชาวบ้านในพื้นที่
กฤษฎิ์กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการดังกล่าวนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อระบบนิเวศในทะเลและระบบสัตว์เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดยงบประมาณ 2569 นี้จะไม่เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษ แต่จะเป็นโอกาสที่จะเชื่อมโยงประเทศเข้ากับอนาคต เชื่อมประชาชนเข้ากับความหวัง ถนนเชื่อมโยงเมือง งบเกษตรที่เชื่อมชาวนากับตลาด หรือโครงการประมง ที่เชื่อมโยงชาวบ้านกับท้องทะเล โดยที่ยืนยันสนับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 เพื่อให้รัฐสามารถเดินหน้าลงทุนเพื่ออนาคตอย่างมั่นคง
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่าย กาญจนา จังหวะ สส. ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะได้ร่วมใช้เวลาในโควตาพรรคกล้าธรรม เพื่อร่วมอภิปรายงบประมาณปี 2569 ในวันนี้ด้วย