วันนี้ (21 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิป) ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน โดยมี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ร่วมกับตัวแทนของวิปฝ่ายรัฐบาล อาทิ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล, มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และวิปฝ่ายค้าน อาทิ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน, ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เพื่อพิจารณาถึงกรอบการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ ระหว่างวันที่ 28-31 พฤษภาคม
ภายหลังการประชุม วิสุทธิ์แถลงว่า ในการหารือดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ไม่มีความขัดแย้งเรื่องการจัดสรรเวลา ทั้งนี้ ในการประชุมวันที่ 28 พฤษภาคม จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จำนวน 2 ฉบับ และร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จำนวน 2 ฉบับ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณารวม 8 ชั่วโมง และเสร็จไม่เกินเวลา 17.00 น. และพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ต่อเลย ส่วนวันที่ 29-31 พฤษภาคม จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
วิสุทธิ์กล่าวต่อว่า เราจะมีเวลาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 รวมทั้งหมด 41 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 20 ชั่วโมง และประธาน 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ การประชุมสมัยวิสามัญจะไม่มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. แน่นอน
“การพิจารณางบประมาณเชื่อว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันทำงานให้ประสบความสำเร็จ โดยเวลาที่กำหนดไว้ 4 วันนั้น ในแต่ละวันจะเลิกไม่เกิน 22.00 น. และแต่ละฝ่ายจะช่วยควบคุมเวลาไม่ให้มีปัญหา เพื่อให้การพิจารณางบประมาณนั้นเป็นประโยชน์กับประชาชน” วิสุทธิ์กล่าว
วิสุทธิ์กล่าวถึงกรณีงบปรับปรุงรัฐสภาที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมด้วยว่า สภาเป็นแบบอย่างที่ดีของการใช้งบประมาณ งบใดที่ไม่จำเป็นต้องตัด
ขณะที่ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นั้น เชื่อว่าจะลงมติวาระแรกในวันที่ 31 พฤษภาคม ไม่เกินเวลา 18.00 น. ทั้งนี้ กรอบเวลาที่กำหนดให้นั้นเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้พิจารณาในเนื้อหาสาระอย่างเต็มที่ เบื้องต้นตนเชื่อว่าจะไม่มีการประท้วงในเนื้อหามากนัก และการพิจารณาจะราบรื่น
ปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า ส่วนการจัดสรรเวลาให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น ได้มีการหารือกันเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจะสามารถบริหารจัดการได้ ขณะที่ในการเตรียมความพร้อมของ สส. พรรคประชาชนนั้น เบื้องต้นอาจมีผู้อภิปรายจำนวนมากเพื่อเน้นการอภิปรายที่หลากหลายประเด็น
“ฝ่ายค้านยืนยันการทำงานว่าจะตรวจสอบเต็มที่ ไม่ว่าฝ่ายไหน ส่วนงบประมาณเพื่อปรับปรุงรัฐสภาที่เป็นประเด็นวิจารณ์กันก่อนหน้านี้ ผมเชื่อว่า สส. จะรักษาเกียรติยศศักดิ์ศรีในที่ทำงาน และเราจะตรวจสอบเต็มที่แน่นอน“ ปกรณ์วุฒิกล่าว
ขณะที่มนพรกล่าวว่า ในส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรีได้ย้ำในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ให้รัฐมนตรีแต่ละคนที่กำกับดูแลแต่ละกระทรวงต้องมีความพร้อมที่จะตอบข้อซักถามสมาชิกตั้งแต่วันที่ 28-31 พฤษภาคมนี้ รวมถึงได้เน้นย้ำเรื่องของการใช้เม็ดเงินที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประชาชนและมีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ครม. แต่ละคนจะสแตนด์บายอยู่สภาทั้ง 4 วัน
มนพรกล่าวต่อว่า ตนทราบว่านายกรัฐมนตรีได้คุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้วว่าให้ความเห็นชอบที่พิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2569 ไม่ได้เป็นไปตามที่มีข่าวตามสื่อ ซึ่งเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมตนก็ได้พูดคุยกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ท่านก็ยืนยันว่ามีความพร้อม เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องเห็นชอบ และอย่าไปเชื่อข่าวลือว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล จะผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2569 ไปด้วยดี รวมถึงจะมีการตั้ง กมธ.วิสามัญ จำนวน 72 คน
เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าจะเห็นชอบโดยไม่งดออกเสียงใช่หรือไม่ วิสุทธิ์กล่าวว่า “ยืนยันไม่มีปัญหา อย่ากังวล”
ภายหลังการแถลงผลการหารือของวิปทั้ง 2 ฝ่ายเสร็จแล้ว วิสุทธิ์ได้กล่าวแซวขึ้นมาว่า “ขอให้เราทั้ง 3 ฝ่ายจับมือกัน ประชุมเรียบร้อย ราบรื่น” ก่อนที่จะจับมือกับมนพรและปกรณ์วุฒิ