วันนี้ (19 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา อลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ของวุฒิสภา กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 ว่า เราเจอตัวเลขบางอย่างที่น่าสงสัย เช่น ในส่วนของกรมฝนหลวง ที่พบว่าการรับงบประมาณในแต่ละปีนั้นไม่สามารถส่งรายงานกระบวนการการทำให้เกิดฝนได้ หรือในส่วนของกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่มีการจ้างทนายร้อยล้าน
“อยากถามว่าหากในเข่งของงบประมาณ มีปลา 1,000 ตัว แล้วมีปลาเน่าอยู่ประมาณ 20 ตัว เราควรที่จะรับเข่งนี้หรือไม่ อยากถามประชาชนว่า อยากจะให้เรารับทั้ง 1,000 ตัวผ่าน โดยที่มีตัวเน่า 20 ตัว หรือกับกรณีที่ไม่ผ่านทั้งหมด ความเห็นส่วนตัวผม ผมฟังเสียงประชาชน หากจะเอาตามหลักการคือเป็นส่วนน้อย แต่อีกด้านคือในเมื่อมีตัวเน่าแล้วก็จะเหม็นทั้งข้อง จะไม่ผ่าน” อลงกตกล่าว
อลงกตกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของงบประมาณที่จัดสรรให้องค์การมหาชนต่างๆ เราพบว่ามีเกินครึ่งที่ลักษณะงานซ้ำซ้อนกับระบบราชการ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าองค์การมหาชนบางส่วนยังมีความจำเป็นอยู่ และเห็นว่างบประมาณจำนวนกว่าหมื่นล้านบาทที่เป็นปัญหา นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณในส่วนของกองทุนหมุนเวียนอีกประมาณแสนล้านบาท ที่มีการดูดจากงบประมาณเข้าไป ซึ่งหากเหลือก็จะอยู่ในกองทุนหมุนเวียนเลย
รวมถึงเรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่เมื่อมีการร้องเรียนคดีต่างๆ แล้วมีการส่งฟ้องคดีไปเท่าไร จะเอาจำนวนคดีมาหารกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร จึงอยากให้ประชาชนส่งเสียงกันมาว่าคิดเห็นอย่างไรบ้าง
ส่วนหาก สว. ไม่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จะต้องส่งกลับให้ สส. พิจารณาอีกครั้งใช่หรือไม่ อลงกตกล่าวว่า เราฟังเสียงประชาชน อยากให้พวกท่านส่งเสียงมาให้ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร อยากฝากให้ประชาชนพิจารณาว่า ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ควรจะอนุมัติงบประมาณเร็วที่สุด แล้วหากในเข่งงบประมาณ 1,000 ตัว มีปลาเน่าอยู่ 20 ตัว ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร
“แต่ส่วนตัวผม ผมอยากให้ผ่าน หากมีส่วนใดแจ้งกลับมายังวุฒิสภา เราก็ยินดีรับฟัง” อลงกตระบุ
ดับลือ สว. จ่อคว่ำร่างงบประมาณ 2569
ด้าน พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กล่าวถึงกระแสข่าววว่า วุฒิสภาเตรียมจะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะวุฒิสภาเพิ่งได้รับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มาไม่กี่วัน และการพิจารณาของ สว. ต่างจาก สส.
พิสิษฐ์ระบุว่า การพิจารณางบประมาณของ สว. จะแบ่งออกเป็น 4 ภัย คือ
- ภัยเศรษฐกิจ
- ภัยความมั่นคง
- ภัยธรรมชาติ
และ 4. ภัยสังคม
โดยยอมรับว่า ถ้าดูจากร่างงบประมาณแล้ว ไม่ได้สะท้อนการแก้ไขปัญหาทั้ง 4 ด้าน แต่ส่วนตัวก็อยากให้งบประมาณผ่าน เพราะหากไม่ผ่านจะกลายเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และทำให้การเบิกจ่ายหยุดชะงัก แต่หากดูการจัดสรรงบประมาณก็ต้องยอมรับว่าแย่จริงๆ ไม่ได้สะท้อนปัญหาที่แท้จริง
“ข่าวที่บอกว่าวุฒิสภาจะคว่ำงบประมาณ แต่ส่วนตัวยืนยันว่ายังอยากให้ผ่าน แม้อาจจะไม่ตอบโจทย์ แต่ถ้าไม่ผ่านขึ้นมาจะสะดุดเลย ภาพรวมของประเทศจะมีปัญหา” พิสิษฐ์กล่าว
สำหรับระยะเวลาในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณของ สว. นั้น พิสิษฐ์กล่าวว่า จะเร่งเต็มที่ให้ทันตามกฎหมาย ซึ่งหากเป็นไปได้ก็คาดว่าจะประมาณสิ้นเดือนสิงหาคมนี้