วันนี้ (30 พฤษภาคม) เวลา 16.00 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ในวาระรับหลักการ ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 322 เสียง ไม่เห็นชอบ 158 เสียง ไม่มีงดออกเสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง ภายหลังเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่วันที่ 28-31 พฤษภาคม รวมแล้วเป็นเวลากว่า 41 ชั่วโมง
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นขอบคุณสมาชิกที่ได้ร่วมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่รัฐบาลนำเสนอด้วยความตั้งใจ รัฐบาลตระหนักดีว่าการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดวงเงินงบประมาณ มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัจจัยรอบด้านที่ส่งผลกระทบ
ความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศมีผลกระทบมากมาย ทุกวันนี้เราจะสามารถขับเคลื่อนประเทศให้ไปต่อได้ด้วยนโยบายที่รัฐบาลได้เสนอต่อสภา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่างบประมาณที่ได้เสนอไปจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยทุกคนได้
รัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจใช้งบประมาณที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา คำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณ เพื่อรองรับปัญหาเร่งด่วนเสริมสร้างศักยภาพของทุนมนุษย์ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวทางยุทธศาสตร์ของชาติอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ งบประมาณปี 2569 มุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงทรัพยากรที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รวมถึงการรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศให้เป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด
สำหรับข้อเสนอแนะที่ทุกท่านได้อภิปรายไว้ ขอฝากคณะกรรมาธิการวิสามัญที่จัดตั้งขึ้นโดยสภาแห่งนี้ นำไปประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดและครบถ้วนต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ตนเองเดินทางไปต่างประเทศได้คุยกับผู้นำประเทศมากมาย มีเรื่องผลกระทบที่เจอในหลายด้านหลายมุมแตกต่างกัน ตนเองมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกประเทศที่จะร่วมมือช่วยกันได้ก็ช่วยกันอย่างเต็มที่
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องท้าทายที่จะกำหนดทิศทางหาข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งให้เป็นคำตอบที่ชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจคือ รัฐบาลชุดนี้จะทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำทุกนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สำเร็จเป็นรูปธรรม เราจะลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และจะใช้เม็ดเงินจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เรามุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และหวังว่าจะสามารถทำให้ประเทศผ่านวิกฤตไปได้
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การขอบคุณของนายกฯ ปกติจะทำก่อนการปิดประชุม หลังจากมีการทำกระบวนการสภาเสร็จสิ้น นายกฯ ควรใช้สิทธิสรุปก่อนจะลงมติ ขออภัย แต่ขอความกรุณาว่าเราต้องทำตามธรรมเนียมปฏิบัติ และแนวปฏิบัติของสภาฯ จะดีที่สุด
หลังจากนี้ที่ประชุมสภาจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ขึ้นมา โดยมีรายชื่อกรรมาธิการฯ ที่เป็น สส. ตามสัดส่วนสมาชิกพรรคการเมืองที่มีอยู่ในสภา รวมถึงสัดส่วนบุคคลภายนอก เพื่อศึกษางบประมาณของแต่ละหน่วยรับงบประมาณอย่างละเอียด ว่าจะควรตัดลดงบประมาณส่วนใดเพิ่มเติมหรือไม่ ก่อนจะนำเสนอผลการพิจารณาให้ที่ประชุมสภาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป
คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ รวมทั้งสิ้น 73 คน แบ่งเป็นคณะรัฐมนตรี 18 คน จากสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน 16 คน, พรรคเพื่อไทย16 พรรคภูมิใจไทย 8 คน, พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 คน, พรรคกล้าธรรม 3 คน, พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน, พรรคพลังประชารัฐ 2 คน และพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคละ 1 คน โดยนัดประชุมครั้งแรกในวันที่ 9 มิถุนายน เวลา 13.00 น. และแปรญัตติภายใน 30 วัน