วันนี้ (18 มกราคม) ที่รัฐสภา ภราดร ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม พร้อมรายงานความคืบหน้าในการพิจารณา มีหน่วยงานต่างๆ ที่ผ่านการพิจารณารวมงบกลาง 11 รายการ 42 หน่วยงาน 3 กองทุน คิดเป็น 7.16% โดยวานนี้ (17 มกราคม) มีการพิจารณาในส่วนของมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม คือ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม, กองบัญชาการกองทัพไทย, กองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
ภราดรกล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้ให้ข้อสังเกตว่า กองทัพควรมีขนาดเล็กและมีความทันสมัยในหลายๆ ด้านให้มากขึ้น เนื่องจากภารกิจด้านความมั่นคงในอนาคตจะเปลี่ยนรูปแบบที่แตกต่างไปจากอดีต ซึ่งขนาดของกองทัพที่เล็กลงจะทำให้มีงบประมาณเหลือมากพอ โดยหวังว่ากองทัพจะใช้งบประมาณในแต่ละปีลดลง
พร้อมยกตัวอย่างว่า การปรับลดขนาดกองทัพนั้นไม่ใช่เพียงแค่การลดจำนวนข้าราชการระดับล่างเท่านั้น ควรพิจารณาไปถึงการปรับลดบางตำแหน่งที่ไม่มีความจำเป็นในระดับสูงด้วย เช่น ที่ปรึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อให้สามารถลดการใช้งบประมาณสำหรับนายทหารระดับสูง และควรปรับโครงสร้างการทำงาน เพื่อให้ทันกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่อาจเข้ามาสร้างปัญหาให้กับประชาชน
โดยเฉพาะกรณีการสร้างแรงจูงใจให้ชายไทยเข้ามาสมัครเป็นทหารแบบสมัครใจให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้เลือกเหล่าทัพที่ตนเองมีความประสงค์ รวมไปถึงการดูแลสวัสดิการของทหารเกณฑ์ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ และได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วย
ภราดรกล่าวต่อว่า คณะกรรมาธิการยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ กระทรวงกลาโหมอีกว่า การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ควรพิจารณาและให้ความสำคัญต่อการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ภายใต้นโยบายการจัดซื้อแบบชดเชย (Offset Policy) ที่ทำข้อตกลงกับประเทศคู่ค้าว่า นอกจากซื้อแล้วอาจต้องมีการซื้อเทคโนโลยีสำหรับแผนการในอนาคตของกองทัพในการเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีการทหารด้วย เหมือนประเทศเกาหลีใต้ที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีทางการทหารส่งออกนอกประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นผู้ผลิต จากเดิมที่เป็นเพียงผู้นำเข้าเทคโนโลยีทางการทหาร
ส่วนในวันนี้คณะกรรมาธิการจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มาตรา 9 กระทรวงการคลัง รวม 16 หน่วยงาน 2 กองทุน มาตรา 40 แผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ และมาตรา 41 รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง โดยอาจพิจารณาไม่แล้วเสร็จในวันนี้ และนำไปพิจารณาต่อในวันพรุ่งนี้ (19 มกราคม)
ภราดรกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า คณะกรรมาธิการให้ความสำคัญสำหรับการประกอบธุรกิจเช่นกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการทำบัญชี และการชี้แจงต่อสังคมให้มีความชัดเจนด้วย