×

‘บัวหลวงเวนเจอร์ส’ จับมือ ‘WHA Group’ ร่วมลงทุนรอบ Series B ใน ‘GIZTIX’ สตาร์ทอัพด้านอีโลจิสติกส์สัญชาติไทย วงเงินระดมทุนรวมกว่า 260 ล้านบาท

17.11.2021
  • LOADING...
WHA Group

บัวหลวงเวนเจอร์ส (BV) บริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกรุงเทพ ผนึกกำลัง ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง ในเครือ WHA Group ร่วมเป็นผู้ลงทุนหลักรอบ Series B ให้กับบริษัท จิซทิกซ์ (GIZTIX) สตาร์ทอัพสัญชาติไทยด้านอีโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการด้านขนส่งและโลจิสติกส์กับผู้ใช้บริการจากทั่วประเทศ 

 

โดยการระดมทุนในรอบนี้มีมูลค่ารวม 7.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 260 ล้านบาท ซึ่งบัวหลวงเวนเจอร์ส และ WHA Group จะร่วมลงทุนฝ่ายละ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 100 ล้านบาท การระดมทุนรอบ Series B ยังมีนักลงทุนสถาบันชั้นนำในวงการสตาร์ทอัพร่วมลงทุนด้วย ได้แก่ AddVentures by SCG, KK Fund และ CAC Capital โดย GIZTIX มีแผนนำเงินดังกล่าวไปพัฒนาบริการและเทคโนโลยีสำหรับการขนส่งเพื่อธุรกิจให้ครบวงจร รวมถึงขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และลดต้นทุนการขนส่งให้ได้มากที่สุด 

 

กฤษณ์ พันธ์รัตนมาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส กล่าวว่า การลงทุนในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการร่วมลงทุนในบริษัท GIZTIX ที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญในโลจิสติกส์แล้ว ยังเป็นความร่วมมือด้านการลงทุนจากบัวหลวงเวนเจอร์ส ในฐานะ Financial Partner และ WHA Group ในฐานะ Strategic Partner ที่จะมาช่วยผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยสามารถเติบโตและแข่งขันในอุตสาหกรรมทั้งในไทยและต่างประเทศ 

 

โดยบัวหลวงเวนเจอร์ส ในฐานะบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน จะนำเสนอเทคโนโลยีด้านการเงิน หรือ FinTech เข้ามาเติมเต็มให้ระบบการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มของ GIZTIX มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น เช่น บริการสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับพนักงานขับรถขนส่งที่อยู่ในระบบบริษัท บริการสินเชื่อหมุนเวียนสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก รวมถึงการนำข้อมูลด้านการชำระเงินมาวิเคราะห์และพัฒนาเป็นโซลูชันเพิ่มเติมในอนาคต ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ให้บริการขนส่งรายย่อย รวมถึงเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดอีคอมเมิร์ซต่อไปในอนาคต

 

“เราเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่ดีของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความต้องการเลือกใช้งานจากผู้ให้บริการขนส่งต่างๆ อย่างแพร่หลาย เราจึงมั่นใจว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานได้ทั้งระบบ ตั้งแต่ผู้ประกอบการขายสินค้า ผู้ให้บริการขนส่ง รวมถึงลูกค้าที่ซื้อสินค้า ซึ่งทุกคนจะได้รับบริการด้านขนส่งที่มีประสิทธิภาพจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ควบคุมต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่งได้เป็นอย่างดี ภายใต้ระบบงานของ GIZTIX ที่กำลังจะถูกพัฒนาให้มีศักยภาพการบริการเพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนในครั้งนี้” กฤษณ์กล่าว

 

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การจับมือเป็นพันธมิตรกับบัวหลวงเวนเจอร์ส และ GIZTIX ครั้งนี้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Digital Innovation and Transformation ของ WHA Group ที่มุ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการแบบครบวงจรร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจและบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของเมกะเทรนด์ 

 

ตลอดจนการสร้างมูลค่าและคุณภาพที่มากยิ่งขึ้นให้แก่ผลิตภัณฑ์และการให้บริการของ WHA Group ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Smart Warehouse ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานเหมือนต่างประเทศ โดยการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาปรับใช้ร่วมกับเทคโนโลยี 5G หรือ Smart Logistics ที่มุ่งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดเก็บและนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์เชิงลึก เพื่อใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ พร้อมทั้งต่อยอดผ่าน AI และ Machine Learning ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว

 

“ในฐานะผู้นำการให้บริการแบบครบวงจรด้านโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม และสาธารณูปโภคของประเทศไทย WHA Group พร้อมจะนำความเชี่ยวชาญ และ Ecosystem ของ 4 ธุรกิจหลัก ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ทั้งสัญชาติไทยและต่างชาติ มาผนึกกำลังร่วมกับบัวหลวงเวนเจอร์ส และ GIZTIX เพื่อสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการชาวไทย ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า WHA Group ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตทั้งภายในประเทศและก้าวไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน” จรีพรกล่าว

 

ด้านสิทธิศักดิ์ วงศ์สมนึก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง GIZTIX กล่าวว่า เงินลงทุนที่ได้รับจากการระดมทุน Series B ดังกล่าว จะนำไปใช้พัฒนาธุรกิจ 4 ด้าน คือ 1. พัฒนาบริการและเทคโนโลยีสำหรับการขนส่งเพื่อธุรกิจให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการก้าวสู่การใช้เทคโนโลยีระดับสูงที่มีความซับซ้อน 2. ขยายเครือข่ายและพื้นที่บริการขนส่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศด้วยระบบอีโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในจุดยุทธศาสตร์สำหรับการขนส่งทางถนน 3. ลงทุนด้านการตลาดและการขาย ช่วยกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการขนส่งในทุกจังหวัด และ 4. ลงทุนด้านการบริหารและเทคโนโลยี เพื่อรักษาความสามารถทำกำไรควบคู่กับการขยายธุรกิจ และเตรียมพร้อมเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2568 หรือใน 4 ปีข้างหน้า

 

แม้ปัจจุบันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กำลังอยู่ในภาวะแข่งขันสูง เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก แต่ด้วยจุดแข็งของ GIZTIX ที่เลือกโฟกัสกลุ่มลูกค้าธุรกิจและสินค้าขนาดใหญ่เป็นหลัก ซึ่งมีการแข่งขันน้อยกว่า รวมถึงบริการแบบครบวงจรที่ออกแบบมาสำหรับลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ มีเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนในทุกกระบวนการทำงาน จึงยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563-2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดได้กระตุ้นให้ภาคธุรกิจหันมาใช้บริการผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น จนมีจำนวนเที่ยวขนส่งที่บริหารผ่านแพลตฟอร์ม GIZTIX มากกว่า 500,000 เที่ยวต่อปี กำไรเติบโตขึ้นกว่า 420%

 

“ธุรกิจการขนส่งทางถนนในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี มีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกมหาศาล รวมถึงประเทศไทยยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ของภูมิภาค ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจขนส่งส่วนใหญ่ยังขาดระบบดิจิทัล ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อข้อมูลและสื่อสารแบบเรียลไทม์ นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญของ GIZTIX ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจในไทย ที่จะสอดคล้องไปกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ของไทยในอนาคต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง GIZTIX กล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising