โบรกฯ มองปิดกิจการ ‘นกสกู๊ต’ ไม่สะเทือนอุตสาหกรรมการบิน เหตุภาพรวมผู้โดยสารยังจำกัดจากผลกระทบโควิด-19 ชี้ช่วยลดผลขาดทุน NOK
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์เรื่อง ‘นกสกู๊ต’ ประกาศยุติกิจการ ประเมินผลกระทบต่อกลุ่มสายการบินจำกัดว่า บอร์ดคณะกรรมการบริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK (26 มิถุนายน) มีมติรับทราบการยกเลิกกิจการของบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด โดยมีบริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NOK ถือหุ้น 49.65% เนื่องจากนกสกู๊ตมีผลขาดทุนต่อเนื่อง และการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน โดยผู้ถือหุ้นนกสกู๊ตจะพิจารณาตามมติเดียวกันนี้ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในอีกประมาณ 14 วัน
ขณะที่การเลิกกิจการนกสกู๊ตจะไม่มีผลกระทบต่อแผนการบินและการให้บริการของ NOK โดย NOK ยังคงให้บริการเที่ยวบินในประเทศเป็นหลัก
บล.เคทีบี มีมุมมองเป็นกลางจากข่าวดังกล่าว โดยคาดว่าจะมีผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมการบินไม่มาก ทั้งนี้สายการบินนกสกู๊ตมีเส้นทางการบินประจำเส้นทางบินจีน ได้แก่ นานจิง ชิงเต่า เทียนจิน เฉินหยาง เส้นทางบินไต้หวัน ได้แก่ ไทเป เส้นทางบินญี่ปุ่น ได้แก่ นาริตะ โอซาก้า ซัปโปโร และเส้นทางบินอินเดีย ได้แก่ เดลี ซึ่งปัจจุบันทุกเส้นทางยังคงปิดทำการบิน และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกลับมาเปิดบินได้เมื่อไร
ขณะที่ด้านงบการเงิน ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ และ NOK ไม่สามารถเพิ่มทุนได้ จึงต้องประกาศเลิกกิจการ
โดยการยกเลิกกิจการนกสกู๊ตจะทำให้ NOK ลดผลขาดทุนลงได้บ้าง แต่ บล.เคทีบี ยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน NOK เนื่องจากผลการดำเนินงานที่จะยังคงขาดทุนต่อเนื่อง
สำหรับผลกระทบจากการเลิกกิจการของนกสกู๊ตต่อบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด บล.เคทีบีประเมินว่ามีไม่มาก โดยมีเส้นทางบินที่เหมือนกัน ได้แก่ นานจิงและไทเป ซึ่งแม้นกสกู๊ตจะเลิกบิน แต่จะยังไม่เป็นบวกต่อ AAV เนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้โดยสารยังจำกัด
ทั้งนี้ปัจจุบัน AAV เริ่มกลับมาทยอยเปิดเที่ยวบินในประเทศได้มากขึ้น ทำให้เริ่มกลับมามีกระแสเงินสด และจะช่วยลดผลขาดทุนในช่วงที่เหลือของปี
สำหรับ AAV บล.เคทีบี แนะนำให้ ‘ถือ’ ราคาเป้าหมาย 1.65 บาท โดยคาดว่าราคาหุ้นกลุ่ม Aviation ยังมีโอกาสปรับตัวลงจากความกังวลต่ออุตสาหกรรมการบินที่ยังฟื้นตัวช้า แต่คาดว่าสถานการณ์จะทยอยกลับมากระเตื้องขึ้นใน 2H20E
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุ นกสกู๊ตปิดกิจการหลังดำเนินธุรกิจมา 7 ปี นกสกู๊ตเป็นสายการบิน Low Cost ระหว่างประเทศ จึงไม่กระทบเส้นทางการบินของ NOK (ถือ 49%) และ AAV ซึ่งเป็น Low Cost ในประเทศ แต่สะท้อนความยากลำบากของธุรกิจสายการบินที่ IATA คาดว่าอาจล้มละลายถึงครึ่งหนึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ
ทั้งนี้ IATA คาดจำนวนผู้โดยสารทั่วโลกปีนี้ลดลง 55% เหลือ 2.25 พันล้านคน Load Factor เหลือ 62.7% จาก 82.5% ในปี 2019 รายได้ลดลง 60% และขาดทุน 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะถูกกระทบหนักกว่าทวีปอื่น โดยปี 2021 คาดว่าจะฟื้น แต่ IATA ยังคาดขาดทุน 1.58 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะคาดผู้โดยสาร 3.38 พันล้านคน ต่ำกว่าปี 2019 (4.54 พันล้านคน) อยู่ 26% โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ยังคงมุมมอง Underweight กลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
เรียบเรียง: จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com