วันนี้ (15 สิงหาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากประชุมร่วมไทยและมาเลเซีย ผ่านคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (เจซี) และคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน ระดับรัฐมนตรี (เจดีเอส) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ทั้งสองประเทศเห็นชอบในแนวทางการพัฒนาร่วมกันที่ครอบคลุม ทั้งความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงาน สาธารณสุข และประเด็นความร่วมมือทางสังคมและวัฒนธรรมอื่นๆ โดยจะมีการทำโรดแมปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ ภายใต้กรอบเวลาที่ชัดเจนต่อไป เช่น
- การค้า จะตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568
- การท่องเที่ยว ส่งเสริมการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชาชนและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิมและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
- การเสริมสร้างความเชื่อมโยง จะเร่งรัดให้โครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งรวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านสะเดาแห่งใหม่-บูกิตกายูฮิตัม และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก 2 แห่ง รวมทั้งจะศึกษาความเป็นไปได้โครงการความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสตูลและรัฐปะลิส และเส้นทางรถไฟความเร็วสูง
รัชดายังกล่าวถึงการขับเคลื่อนความร่วมมือในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาเลเซีย ได้หารือกับเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มีประเด็นดังนี้
- การพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอตากใบ และด่านบูเก๊ะตา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
- โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
- โครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายของรัฐบาล
ขณะนี้ได้ข้อสรุปที่ดีตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างสะพาน ทั้งสองประเทศจะร่วมกันผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในการขนส่งการค้าชายแดน และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
“นายกรัฐมนตรีพอใจผลการหารือร่วมไทย-มาเลเซียในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ได้ประชุมร่วมกันมานานถึง 7 ปี และกล่าวว่าเป็นก้าวสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ สู่เป้าหมายการพัฒนาในทุกๆ มิติร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ต้องขับเคลื่อนร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ศอ.บต. จะรวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อม เพื่อการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย ที่คาดว่าจะมาเยือนพื้นที่จังหวัดนราธิวาสในช่วงปลายเดือนนี้” รัชดากล่าว