วันนี้ (30 เมษายน) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รายงานข้อสรุปในการเดินหน้าต่อตามมาตรการที่จะได้เกิดขึ้นในการผ่อนปรนต่างๆ
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ฝากสารมาแจ้งในเบื้องต้นว่า สถานการณ์นี้เป็นความรับผิดชอบของคนไทยทั้งประเทศ ที่ได้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาการระบาดไปด้วยกัน หากคุมสถานการณ์ด้านสาธารณสุขในระยะแรกได้ ก็จะดำเนินการในระยะต่อไปได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินงานด้วยความเสียสละ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้
ทุกคนเข้าใจว่าภารกิจนี้ยาก ท้าทาย แต่หากร่วมมือกันด้วยความตั้งใจ สำนึกต่อสังคม เผื่อแผ่แบ่งปัน ก็จะสำเร็จได้ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ดำเนินการร่วมกัน ไม่ใช่เพราะคำสั่งหรือการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีคนเดียว
– ในส่วนมาตรการเคอร์ฟิวยังคงที่ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.
– ควบคุมการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ มี State Quarantine
– จำกัดการบินเข้า-ออกในราชอาณาจักร
– งดการเดินทางข้ามจังหวัด
– ให้ทำงานที่บ้านร้อยละ 50
มาตรการผ่อนปรน โดย ศบค. จะกำหนดมาตรฐานกลาง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่า กทม. นำไปปฏิบัติ โดยต้องมีความเข้มข้นมากกว่า แต่จะต่ำกว่ามาตรฐานกลางไม่ได้ นำปัจจัยด้านสาธารณสุข นำมาก่อนในการพิจารณา และให้ยึดถือข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ที่ได้ออกไปก่อนหน้านี้
6 กลุ่มกิจกรรมที่อนุญาตให้เปิดดำเนินกิจการได้ในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้คือ
– ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย
– ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม (นอกห้างสรรพสินค้า)
– ซูเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง/ยืนรับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
– กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดินรำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย โดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟ และสนามซ้อม
– ร้านตัดผม เฉพาะตัด สระ ไดร์ผม
– ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยง รับฝากสัตว์
โดยจะใช้เวลาประเมินหลังเปิด 14 วัน เพื่อประเมินว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร หากตัวเลขกลับมาติดเชื้อเพิ่ม จะมีมาตรการที่ต้องกลับมาตรึงใหม่ อย่างไรอยู่ที่ทุกคนที่จะต้องช่วยกัน