สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดอีกครั้ง สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในบราซิล หลังปรากฏยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเกือบ 4,200 คน ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง โดยรัฐเซาเปาโล และนครรีโอเดจาเนโร ติดอันดับพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดในประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้ความรุนแรงของสถานการณ์จะน่าวิตกกังวลมากแค่ไหนในสายตาชาวโลก แต่รัฐบาลบราซิลตัดสินใจเดินหน้าแผนผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเคลื่อนไหวที่มีไว้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทางการรัฐเซาเปาโล เตรียมเปิดโรงเรียน การจัดแข่งขันกีฬา และอนุญาตให้ทำการก่อสร้างได้อีกครั้ง ขณะที่รีโอเดจาเนโรเตรียมอนุญาตบาร์และร้านอาหารเปิดทำการอีกครั้ง ละทิ้งมาตรการที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม
การตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดเหล่านี้ มีที่มาที่ไปโดยทางการเซาเปาโลชี้ว่า อัตราของผู้ป่วยหนักในห้อง ICU นั้นลดลงจากระดับวิกฤตที่ 90.5% ลงมาอยู่ที่ 88.6%
“มาตรการนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความพยายามที่ทำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมากำลังเริ่มให้ผลลัพธ์” รองผู้ว่าการโรดริโก การ์เซีย กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 9 เมษายน
แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังคงเพิ่มอย่างน่ากลัว เฉพาะวันศุกร์ (9 เมษายน) ที่ผ่านมา เพียงวันเดียว รัฐเซาเปาโลมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 ราย
ขณะที่นครรีโอเดจาเนโร มีอัตราผู้ป่วยหนักในห้อง ICU สูงถึงกว่า 92% แต่ถึงกระนั้น นายกเทศมนตรีเอดูอาร์โด เปเอส ก็ตัดสินใจจะผ่อนคลายมาตรการจำกัดต่างๆ
“นี่คือคำตอบสำหรับใครก็ตามที่คิดว่ามาตรการจำกัดเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ในการป้องกันงานปาร์ตี้และฝูงชน ความเป็นจริงของเราไม่อนุญาตให้เราล็อกดาวน์” เปเอส กล่าว พร้อมชี้ว่าเจ้าของร้านค้าและประชาชนทั่วไปต่างได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการจำกัดและป้องกันโควิด-19
แต่การผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดนั้น เป็นการดำเนินนโยบายในทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่สถาบันการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมองว่าจำเป็นสำหรับบราซิล คือการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ
ปัจจุบันบราซิลมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบ 2 โดสเพียง 2.8% หรือประมาณ 6 ล้านคน จากจำนวนประชากรกว่า 210 ล้านคน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก กว่า 13.5 ล้านคน และยังมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากเกือบ 90,000 คน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนต่างตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักหน่วง จำนวนห้อง ICU ในโรงพยาบาลต่างๆ อย่างน้อย 17 รัฐ มีผู้ป่วยมากกว่า 90% และมีรายงานว่า 1 ใน 5 ของเมืองทั้งหมดทั่วประเทศ กำลังเผชิญความเสี่ยงที่ออกซิเจนทางการแพทย์สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาจหมดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ซึ่งรายงานจากมูลนิธิ Oswaldo Cruz ศูนย์วิจัยชีวการแพทย์ที่กำลังทำงานร่วมกับผู้ผลิตวัคซีนอย่าง AstraZeneca ชี้ว่า มีเพียงมาตรการล็อกดาวน์เท่านั้นที่จะช่วยป้องกันไม่ให้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในบราซิลช่วงเดือนเมษายนเลวร้ายมากกว่าเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงถึง 66,573 คน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด
ขณะที่สำนักงานสหประชาชาติในบราซิลออกมาเตือนเมื่อไม่นานนี้ว่า อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่กำลังพุ่งสูง และการขาดแผนประสานงานระดับชาติ กำลังนำพาประเทศไปสู่หายนะ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลบราซิลเร่งดำเนินการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดที่ยังรุนแรง
ภาพ: Andre Coelho / Getty Images)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: