ชีวิตของนักกีฬาเปรียบเสมือน ‘สุนัขล่าเนื้อ’ ที่ความสำเร็จและเงินทองสามารถได้มาอย่างมหาศาล แต่ถูกจำกัดเพียงช่วงเวลาหนึ่ง ปัจจุบันมีตัวอย่างนักกีฬาอาชีพหลายคนในอดีตที่เคยประสบความสำเร็จ เป็นฮีโร่ในสนามกีฬา แต่บ่อยครั้งเรากลับเห็นตามหน้าข่าวว่าอดีตนักมวยดังตกอับ มีบั้นปลายชีวิตแสนเศร้า ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
หนึ่งในปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นคือความรู้ทางการเงิน ที่หลายคนไม่สามารถรักษาหรือทำให้ทรัพย์สินที่ตัวเองหามาระหว่างเส้นทางอาชีพ ต่อยอด งอกเงยจนเกษียณอายุได้ กลายเป็นปัญหาเจ็บปวดของนักกีฬาในทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬามวยไทย
ฟุ่มเฟือย โดนโกง ลงทุนพลาด หนี้สิน สารพัดปัญหาจาก ‘ความไม่รู้’
ปฏิเสธไม่ได้ว่านักมวยส่วนใหญ่มักมาจากครอบครัวใหญ่ที่มีฐานะยากจนในต่างจังหวัด ‘อาชีพนักมวย’ เป็นความฝันที่สามารถเปลี่ยนชีวิต จากการสำรวจของโครงการศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (ไอแมค) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2560 พบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี กว่า 2-3 แสนคน เข้าสู่วงการมวยตั้งแต่ยังเล็กมาก เงินทอง ชื่อเสียง หลายครั้งต้องแลกมาด้วยการไม่ได้เข้ารับการศึกษาในระบบอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้เมื่อก้าวหน้าในชีวิตการงาน มีค่าตัวหลักหมื่น หลักแสน หรือบางคนก็ไต่ไปถึงหลักหลายล้าน แต่กลับขาดความรู้ในการดำเนินชีวิตนอกสังเวียน หมดเงินไปกับของฟุ่มเฟือย โดนหลอก โดนโกง ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีอายุมากขึ้น ปัญหาสุขภาพ อุบัติเหตุจากการชกต่อย อาจทำให้จำเป็นต้องเกษียณตัวเองจากสังเวียนเร็วกว่าที่คิด กลายเป็นใช้เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง หมดตัว ติดหนี้ ในวันที่ตัวเองหมดแรง
รายได้ก้อนโตจากการเป็นผู้ชนะ จะต่อยอดอย่างไรให้ไม่แพ้ในชีวิตจริง?
รายได้ของนักกีฬามวยมักมาเป็นก้อนใหญ่ แข่งขันหนึ่งครั้งนอกจากค่าตัวที่ได้ ยังมีเงินโบนัส เงินอัดฉีดจากการโชว์ฟอร์มได้ประทับใจคนดู อย่างรายการ ONE championship รายการแข่งขันมวยชื่อดังระดับโลก ตั้งเงินอัดฉีดนักกีฬาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ (ราว 1.8 ล้านบาท) ทุกอีเวนต์ อีกทั้งยังมีโบนัสคูณสอง คูณสาม ทำให้เงินรางวัลต่อครั้งมีจำนวนมาก หากรายได้เหล่านี้ได้รับการจัดการที่ดีย่อมเกิดประโยชน์และทำให้คนคนหนึ่งมีชีวิตสุขสบายหลังเกษียณได้
XSpring, ONE Championship และสนามมวยเวทีลุมพินี จับมือร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตนักกีฬาไทย ผ่านโครงการ ‘PLAY TO WIN’ Season 1 ภายใต้แคมเปญ ‘สังเวียนชีวิตที่แพ้ไม่ได้’ ส่งต่อความรู้ให้นักมวยอาชีพสามารถบริหารจัดการเงินที่ได้มาอย่างเป็นระบบ สร้างความมั่งคั่งและยั่งยืนตลอดอาชีพการชกมวย รวมถึงปูทางสู่การวางแผนเกษียณอย่างชาญฉลาด พร้อมเดินหน้าสานต่อโครงการต่อเนื่องทุกปีให้ครอบคลุมทุกประเภทกีฬา เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางการเงิน
วรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XSpring กล่าวว่า XSpring มีแนวคิดในการส่งต่อความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน (Financial Literacy) ที่มีประสิทธิภาพไปสู่สังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะการส่งต่อความรู้ไปยังกลุ่มนักกีฬา เพราะเป็นกลุ่มที่สามารถสร้างทั้งชื่อเสียง ความสำเร็จ และความมั่งคั่งทางการเงิน แต่พบว่าบ่อยครั้งที่ความสำเร็จเหล่านั้นมักไม่ยั่งยืน โดยตัวโครงการจะมีทั้งการให้ความรู้ทางการเงินกับนักกีฬา รวมถึงการจัดการกองทุนส่วนบุคคลให้แต่นักกีฬา โดยเริ่มจากกลุ่มนักมวยก่อน และต่อยอดไปกีฬาประเภทอื่นๆ ในอนาคต
ทั้งนี้ ได้นักมวยชื่อดังจากเวที ONE ลุมพินี อย่าง ‘ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9’ นักมวยเงินล้าน และ ‘รถถัง จิตรเมืองนนท์’ นักมวยเจ้าของค่าตัว 10 ล้านบาท ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการลงทุน
รถถัง จิตรเมืองนนท์ หรือชื่อจริง ทินกร ศรีสวัสดิ์ นักมวยไทยชาวไทยระดับแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต ที่ได้รับการกล่าวถึงว่ามีความทรหดและการโจมตีที่รุนแรง
ทินกร ศรีสวัสดิ์ (รถถัง จิตรเมืองนนท์) กล่าวว่า ทุกวันนี้มีเพื่อนๆ ชวนไปลงทุนหลากหลายรูปแบบ เนื่องจากตนเองก็มีความคิดที่จะวางแผนการเงินสำหรับช่วงเวลาหลังการเลิกอาชีพนักกีฬา จึงลองเข้าไปลงทุนตามคำชักชวน ซึ่งก็พบว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังขาดความรู้และความเข้าใจในการลงทุน ทุกวันนี้เงินส่วนใหญ่จากค่าชกของตนก็จะให้ครอบครัว
ส่วนเรื่องการลงทุนเลือกที่จะซื้อที่ดินเก็บไว้ และวางแผนเริ่มทำธุรกิจของตนเองอย่างการสร้างวิลล่าและค่ายมวย ด้านซุปเปอร์เล็กเองก็มีความฝันอยากมีค่ายมวยเป็นของตนเอง
“ในความเป็นจริงนักมวยหลายคนก็มีความสนใจลงทุนเพื่อต่อยอดรายได้ที่มีอยู่ แต่บางคนก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากการลงทุนแบบไหนจึงจะเหมาะกับตัวเรา” รถถังกล่าว
แผนการเงินที่เหมาะสมกับนักกีฬาคืออะไร?
ยศกร ฟอลเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด หรือ Xspring AM กล่าวถึงแผนการเงินที่เหมาะสมสำหรับนักกีฬาคือ ต้องเป็นการลงทุนที่เข้าใจง่าย เพราะนักกีฬาอาชีพอาจไม่ได้มีความรู้มากเรื่องการลงทุน โดยก่อนการลงทุนต้องทราบก่อนว่าค่าใช้จ่ายของครอบครัวมีเท่าไร ความเสี่ยงที่รับได้ และต้องการผลตอบแทนเท่าไรในแต่ละปี พอมีความรู้ตรงนี้ก็จะสามารถออกแบบพอร์ตการลงทุน ซึ่งต้องผสมผสานระหว่างสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและสินทรัพย์เสี่ยงสูง หากเป็นพอร์ตที่เสี่ยงต่ำคือลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เช่น ตราสารหนี้ 70% ตราสารทุน 30% หากเป็นพอร์ตที่มีความเสี่ยงสูง ก็ลงทุนในตราสารทุน 70% และตราสารหนี้ 30%
อีกสิ่งที่ควรวางแผนคือ หลังวัยเกษียณอยากมีเงินใช้เท่าไร โดยได้แชร์ประสบการณ์ในการลงทุนของตนเองไว้ว่า ส่วนตัววางแผนเกษียณไว้ว่าจะมีเงินไว้ใช้เดือนละ 2 แสนบาท เท่ากับปีหนึ่งต้องมีเงินประมาณ 2.4 ล้านบาท และหากเราคิดยาวไปอีกว่าหลังเกษียณจะมีอายุยืนยาวไปจนถึง 80 ปี ดังนั้นก็ควรจะมีเงินหลังเกษียณที่ 48 ล้านบาท หากเป็นนักมวย เราต้องคำนวณว่าค่าใช้จ่ายในอนาคตข้างหน้าจะมีอะไรบ้างหากไม่ได้ชกมวยแล้ว เงินแค่ไหนถึงจะเพียงพอและจึงมาปรับการลงทุนให้เหมาะสม
หลัก 3 D ของการลงทุน
นอกจากนี้ยังฝากหลักการลงทุน 3D ไว้ด้วยคือ
- Discipline – การลงทุนต้องมีวินัย เชื่อว่าการขึ้นมาระดับแชมป์ นักมวยทุกคนต้องมีวินัยมากอยู่แล้ว อย่างถ้าเรามีรายได้เป็นก้อน ไม่ได้มีประจำ ก็สามารถทำพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม แบ่งเงินลงทุนไปทุกเดือน
- Determination – ตั้งเป้าหมาย มีความตั้งใจ มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการบริหารจัดการการเงิน
- Diversification – มีการกระจายลงทุนให้มีสภาพคล่องที่เหมาะกับไลฟ์สไลต์ชีวิต
ซุปเปอร์เล็ก หรือชื่อจริง มนัสชัย เอี่ยมศิริ นักมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งชาวไทย ปัจจุบันเป็นแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งของ ONE Championship รุ่นฟลายเวต เคยเป็นแชมป์สนามมวยลุมพินี 2 รุ่น และอดีตแชมป์โลกของมวยไทยสภามวยโลก รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวต
ด้านมนัสชัย เอี่ยมศิริ (ซุปเปอร์เล็ก) กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนนักกีฬามวย อยู่ในโลกของวงการมวยมาตั้งแต่เด็ก ได้เห็นปัญหาด้านการบริหารจัดการเงินของเพื่อนร่วมอาชีพมามากมายและตระหนักถึงประเด็นนี้มาตลอด จนกลายเป็นโจทย์ในใจที่ต้องการก้าวข้ามปัญหาด้านการเงิน เพื่อที่จะไม่ซ้ำรอยกับเพื่อนร่วมอาชีพหลายคนที่ก้าวพลาดมาก่อน ซึ่งก็โชคดีที่ XSpring, ONE Championship และสนามมวยเวทีลุมพินี ร่วมกันจัดโครงการ ‘PLAY TO WIN’ สังเวียนชีวิตที่แพ้ไม่ได้ เพื่อให้ความรู้และสร้างวินัยในการวางแผนการเงินให้กับเพื่อนๆ นักมวย
“เชื่อว่าโปรเจกต์นี้ไม่ใช่แค่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการเงิน แต่จะเป็นการพลิกชีวิตของนักมวยครั้งสำคัญ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ รู้จักวางแผนการออมและการใช้เงิน รู้จักการลงทุน และไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ที่จะมาชักชวนไปลงทุนแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้เรื่องการบริหารจัดการด้านการเงินจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่ผมในฐานะตัวแทนนักมวยมั่นใจว่านักกีฬามีความพร้อมในการฝึกฝนเรียนรู้กับความรู้ใหม่ๆ ในครั้งนี้ เพื่อให้สังเวียนชีวิตนี้ไม่มีคำว่าแพ้ตลอดไป” ซุปเปอร์เล็กกล่าว
การบริหารจัดการการเงินเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าเราจะประกอบอาชีพอะไร เพราะการที่เราหาเงินมาได้ไม่ได้การันตีว่าเราจะมีชีวิตหลังเกษียณที่มีความสุข แต่การวางแผนการเงินจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข