×

กนง. ยัน ไม่พบเงินทุนเคลื่อนย้ายผิดปกติ มองบาทแข็งไม่กระทบส่งออก เนื่องจากภาพรวมทั้งปียังอ่อนค่า 6-7%

10.11.2021
  • LOADING...
ปิติ ดิษยทัต

ปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า จากการติดตามภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายของไทยในช่วงนี้ยังไม่พบสัญญาณที่ผิดปกติ โดยยังมีทั้งเงินทุนขาเข้าและขาออก แม้ว่าเงินบาทในช่วงนี้จะแข็งขึ้น แต่ในภาพรวมตั้งแต่ต้นปีเงินบาทยังคงอ่อนค่าค่อนข้างเยอะ 6-7% ทำให้การแข็งค่าของเงินบาทจะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยในปีนี้

 

“ปัจจัยที่ทำให้เกิดเงินทุนเคลื่อนย้ายในช่วงนี้ค่อนข้างมากเกิดจากช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนทางนโยบายการเงินของหลายประเทศ ทำให้นักลงทุนมีการโยกย้ายเงิน โดยเชื่อว่าอีกไม่นานเมื่อนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ มีความกระจ่างขึ้น เงินทุนเคลื่อนย้ายก็จะบรรเทาลง” ปิติกล่าว

 

ปิติกล่าวอีกว่า ในกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หรือเร็วกว่าปลายปี 2565 อาจส่งผลต่อความผันผวนในตลาดเงินโลก ทั้งเงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร แต่จากการติดตามท่าทีของ Fed ในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่า Fed จะไม่เซอร์ไพรส์ตลาด

 

สำหรับเรื่องอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงนี้มองว่า เป็นภาวะชั่วคราวที่เกิดจากราคาพลังงานโลกเป็นหลัก ซึ่งเมื่ออุปสงค์และอุปทานของน้ำมันกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า การเร่งตัวของเงินเฟ้อก็จะชะลอลง

 

“ธนาคารกลางในบางประเทศมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดูแลเงินเฟ้อไปแล้ว แต่ถ้าดูในบริบทของไทยจะพบว่ามีความแตกต่าง เพราะเงินเฟ้อเรายังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก มีการอุดหนุนราคาพลังงานจากภาครัฐ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยยังเพิ่งก้าวเข้าสู่การฟื้นตัว การที่เงินเฟ้อจะกดดันให้มีการขึ้นดอกเบี้ยอาจต้องใช้เวลาอีกสักพัก” ปิติกล่าว

 

ทั้งนี้ ที่ประชุม กนง. ครั้งต่อไปในวันที่ 22 ธันวาคม จะมีการทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจไทยในภาพรวม ทั้งประมาณการเศรษฐกิจ ตัวเลขเงินเฟ้อ และตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

“ปัจจุบันเรายังคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้าเอาไว้ที่ 0.7% และ 3.9% ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้มองไว้ที่ 1.5 แสนคน และ 6 ล้านคนในปีหน้า แต่เราจะติดตามภาวะเศรษฐกิจและปรับตัวเลขให้สอดคล้องในการประชุมครั้งหน้า ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นในครั้งหน้า แต่คงเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันไม่มาก” ปิติกล่าว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X