×

ธปท. ย้ำ ระบบการเงินไทยมีเสถียรภาพ แม้หลายส่วนยังเปราะบาง มองเศรษฐกิจเติบโตมั่นคงขึ้น แต่มีความไม่แน่นอนสูงและไม่เท่าเทียมกัน

31.12.2021
  • LOADING...
ธนาคารแห่งประเทศไทย

ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประเมินเสถียรภาพระบบการเงินไทย 2564 ว่า ระบบการเงินไทยโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่หลายส่วนยังมีความเปราะบาง และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูงและไม่เท่าเทียม 

 

โดยรายงานฉบับนี้ ธปท. จัดทำร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้สาธารณชนรับทราบประเด็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทย ซึ่งจะช่วยให้สามารถเตรียมความพร้อมในการรับมือความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวได้มั่นคงขึ้น แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและไม่เท่าเทียม ทำให้ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับสู่ระดับก่อนการระบาด ส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจบางกลุ่ม ซึ่งเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทย โดยภาคครัวเรือนยังมีภาระหนี้ในระดับสูงและเร่งตัวขึ้นในช่วงโควิด รวมถึงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจ SMEs และธุรกิจในภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและฐานะการเงินสูงกว่าภาคธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากฟื้นตัวได้ช้า

 

อย่างไรก็ดี ระบบการเงินไทยโดยรวมยังมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่อง อยู่ในระดับสูง สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนความต้องการสินเชื่อเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ธุรกิจประกันภัยในภาพรวมยังมีฐานะการเงินมั่นคง โดยผลกระทบจากการระบาดของโควิดจำกัดอยู่เฉพาะบางบริษัทที่ขายกรมธรรม์ประกันภัยโควิดแบบ ‘เจอ จ่าย จบ’ ซึ่งทางการได้มีมาตรการดูแลอย่างใกล้ชิด 

 

นอกจากนี้ผลการทดสอบภาวะวิกฤตภายใต้สถานการณ์จำลองในลักษณะมองไปข้างหน้าชี้ว่า ระบบสถาบันการเงินยังมีความเข้มแข็งเพียงพอรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ตลาดการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพและสามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ

 

การผสมผสานนโยบายการเงิน นโยบายการคลัง และมาตรการช่วยเหลือโดยผู้กำกับดูแลในช่วงที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน และดูแลลูกหนี้ให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤต ส่งผลให้โอกาสเกิดวิกฤตของระบบการเงินไทยลดลงจากปีก่อนหน้า โดยภาครัฐได้ปรับรูปแบบของมาตรการให้สอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง 

 

โดยในปี 2564 นโยบายการเงินยังต้องอยู่ในระดับผ่อนคลายต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการทางการเงินเน้นการให้ความช่วยเหลือภาคครัวเรือนและธุรกิจที่ตรงจุด และเป็นมาตรการระยะยาวขึ้นตามความรุนแรงและยืดเยื้อของปัญหา โดยเน้นการเสริมสภาพคล่องสำหรับกลุ่มที่ยังได้รับผลกระทบ และปรับมาตรการแก้หนี้เดิมมาเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับลักษณะปัญหาและการฟื้นตัวของรายได้ลูกหนี้ พร้อมดูแลให้ระบบการเงิน สามารถทำหน้าที่สนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง

 

ในระยะข้างหน้า การรักษาเสถียรภาพระบบการเงินไทยยังมีความท้าทายในหลายด้านโดยเฉพาะ

 

  1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังต้องใช้เวลาและมีความไม่แน่นอนสูงจากความเสี่ยงของไวรัสกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

  1. ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน และถูกซ้ำเติมให้ชัดเจนขึ้นจากโควิด

 

  1. บริบททางเศรษฐกิจและระบบการเงินที่จะเปลี่ยนแปลงไปหลังผ่านพ้นโควิด ซึ่งจะกระทบความสามารถในการทำธุรกิจหรือการแข่งขันของบางภาคธุรกิจ ทำให้ต้องปรับตัว ดังนั้นการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถชำระหนี้ในระยะยาวของลูกหนี้ การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างครบวงจร และการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ เพื่อสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับโลกหลังโควิดจึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน และต้องเร่งผลักดันในระยะต่อไป

 

ภายใต้ภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูง ธปท. และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันติดตามความเสี่ยงในภาคส่วนต่างๆ ของระบบเศรษฐกิจการเงินอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถออกมาตรการดูแลเพิ่มเติมได้อย่างทันท่วงทีหากจำเป็น รวมถึงดูแลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและเอื้อให้เกิดการปรับตัวอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ร่วมกันได้อย่างมั่นคง

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X