วันนี้ (23 มิถุนายน) ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หลังจากกองกำลังบูรพามีคำสั่งห้ามรถจักรยานยนต์และยานพาหนะดัดแปลงทุกประเภทที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเริ่มบังคับใช้มาตรการดังกล่าวทันทีตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป
มาตรการเด็ดขาดของไทยครั้งนี้เป็นการยกระดับตอบโต้มาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากประเทศไทย ส่งผลให้บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกก่อนเปิดด่านในเวลา 09.00 น. ตึงเครียดผิดปกติ จากเดิมที่เคยมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขับขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเพื่อเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้านี้ภาพดังกล่าวได้หายไปโดยสิ้นเชิง
มาตรการควบคุมพื้นที่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
กองกำลังบูรพาได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณชายแดน และป้องกันการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย
โดยครอบคลุมถึงจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ หลังประตูด่านฝั่งกัมพูชาเปิด เจ้าหน้าที่ไทยได้เข้าหยุดยานพาหนะที่พยายามข้ามแดนไว้ทันที สร้างความสับสนให้กับแรงงานกัมพูชาหลายราย
เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาได้เข้ามาเจรจา โดยระบุว่า “ไม่ทราบล่วงหน้า” ถึงมาตรการเข้มข้นของไทยครั้งนี้ ขณะที่แรงงานบางคนแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องนำรถเข้ามาเพื่อดำเนินการด้านเอกสารกับศุลกากร มิฉะนั้นจะเสียค่าปรับ
อย่างไรก็ตาม การเจรจาระดับหน่วยปฏิบัติการระหว่างไทย-กัมพูชาดำเนินไปด้วยดี โดยทั้งสองฝ่ายย้ำจุดยืนให้แรงงานกัมพูชาเข้าใจตรงกันว่า รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถเข็น ไม่สามารถข้ามแดนได้ แต่ยังคงสามารถจอดรถไว้ฝั่งกัมพูชา และเดินข้ามผ่านช่องทางสำหรับคนเดินเข้าสู่ฝั่งไทยได้ตามปกติ
แม้สถานการณ์ในช่วงสายจะเริ่มคลี่คลายลง แต่ยังคงอยู่ภายใต้สายตาและการควบคุมที่เข้มข้นของเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศ โดยขณะนี้ยังไม่มีการประกาศผ่อนปรนหรือกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของมาตรการดังกล่าวแต่อย่างใด