วันนี้ (4 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อท 60/2567 ระหว่างอัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 ได้ยื่นฟ้อง บุญยิ่ง นิติกาญจนา สส. จังหวัดราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (ปัจจุบันเปลี่ยนไปสังกัดพรรคกล้าธรรม) ที่ 1 กับพวกรวม 10 คน จำเลย ในข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กล่าวหาทุจริตในการระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2551/2552 ครั้งที่ 9 เพื่อใช้ภายในประเทศ
ต่อมาศาลได้รวมการพิจารณาคดีนี้กับคดีหมายเลขดำที่ อท 53/2567 ระหว่างอัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 ยื่นฟ้อง มนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 3 คน จำเลย ข้อหาความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กับคดี บุญยิ่ง นิติกาญจนา จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขดำที่ อท 60/2567 บุญยิ่งจึงกลายเป็นจำเลยที่ 4 ในคดี
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1 ได้พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 (มนัส) มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำคุก 10 ปี
จำเลยที่ 4-12 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำเลยที่ 4-7 และที่ 12 จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน และลงโทษจำเลยที่ 8-11 ปรับคนละ 250,000 บาท
ให้นับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุกของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และติดต่อกับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดี ของศาลนี้ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2-3 และไม่รับคำร้องขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของผู้ร้องทั้ง 4 โดยให้ผู้ร้องทั้ง 4 ดำเนินการฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อศาลที่มีอำนาจ
ทั้งนี้ ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำเลยที่ถูกพิพากษาจำคุกและไม่ติดหมายขังคดีอื่นยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 4-7 ที่ 6 และที่ 12 ระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงาน วิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือกำนันตุ้ย จำเลยที่ 12 ในคดีนี้ ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ราชบุรี และเป็นสามีบุญยิ่ง