×

สวนทางยอด Mobile Banking อันดับ 1 โลก Beam สตาร์ทอัพฟินเทคไทย ชี้ SME ยังยุ่งยากเรื่องรับเงิน ส่ง Bolt+ เครื่องเดียวรับได้ทุกช่องทาง

28.10.2025
  • LOADING...
สวนทางยอด Mobile Banking อันดับ 1 โลก Beam สตาร์ทอัพฟินเทคไทย ชี้ SME ยังยุ่งยากเรื่องรับเงิน ส่ง Bolt+ เครื่องเดียวรับได้ทุกช่องทาง

Beam สตาร์ทอัพฟินเทคด้านการชำระเงินในไทย ได้เปิดตัวโซลูชันใหม่สำหรับหน้าร้านในชื่อ ‘Bolt+’ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและร้านค้าสามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ท่ามกลางแนวโน้มที่ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายผ่านธุรกรรมดิจิทัลมากขึ้น

 

การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศไทยมีอัตราการใช้งาน Mobile Banking สูงที่สุดในโลกถึง 97% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต (อ้างอิงข้อมูลจาก Visa)

 

วิน วารีเกษม ประธานกรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Beam กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะก้าวสู่สังคมไร้เงินสดได้ถึง 90% ภายในปี 2030 โดยประเมินว่าหากบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จะสามารถช่วยประหยัด ‘ต้นทุนเศรษฐกิจ’ ได้สูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 48,341 ล้านบาท)

 

การเปลี่ยนแปลงนี้ยังอาจช่วยลดจำนวนเครื่องเก็บเงินสดและแคชเชียร์ลงได้กว่าครึ่ง ลดตู้ ATM ลงถึง 80% เหลือน้อยกว่า 20 เครื่องต่อประชากร 100,000 คน และลดอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินสดลงได้

 

ในฝั่งของผู้ประกอบการ การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยลดต้นทุนธุรกรรมทางการเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะต้นทุนที่เกิดจากการรองรับเงินสด เช่น การสูญหายหรือการนับผิด ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนในการเสริมศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจไทย

 

แม้ตลาดไทยจะมีการใช้ Mobile Banking สูง แต่ Beam ชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SME ยังคงประสบปัญหาในการบริหารจัดการการชำระเงิน ปัญหาหลักคือความยุ่งยากในการบริหารจัดการอุปกรณ์รับชำระเงินหลายเครื่องจากหลายผู้ให้บริการ ซึ่งนำไปสู่ความซับซ้อนในการกระทบยอดและการทำบัญชี

 

Bolt+ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้ โดยเป็นอุปกรณ์ขนาดพกพา (น้ำหนัก 150 กรัม) ที่รวมการรับชำระเงินทุกรูปแบบไว้ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต/เดบิต, QR พร้อมเพย์, E-Wallet (รวมถึง Alipay และ WeChat Pay) และการผ่อนชำระจากธนาคารชั้นนำสูงสุด 7 แห่ง อุปกรณ์นี้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเดี่ยว หรือเชื่อมต่อกับระบบ POS และจุดชำระเงินอัตโนมัติ (Unattended) ที่มีอยู่เดิม

 

จุดแข็งหลักที่ Beam ใช้ในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์คือความเป็น ‘กลาง’ โซลูชันนี้รองรับการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารใดก็ได้ที่ร้านค้าใช้งาน โดยไม่จำกัดอยู่กับธนาคารใดธนาคารหนึ่ง ทำให้ร้านค้ามีอิสระในการบริหารเงินที่ยืดหยุ่นกว่า นอกจากนี้ Bolt+ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Beam Checkout ซึ่งเป็นโซลูชันรับชำระเงินออนไลน์ของบริษัท ทำให้ร้านค้าสามารถจัดการยอดขายทั้งจากหน้าร้านและออนไลน์ได้ในแพลตฟอร์มเดียว

 

กลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทคือผู้ประกอบการ SME ในธุรกิจค้าปลีก โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5,000 รายในปีแรก สำหรับโมเดลการกำหนดราคา Bolt+ ใช้วิธีการซื้อขาดในราคา 4,490 บาท ซึ่งต่างจากโมเดลการเช่าเครื่อง EDC ทั่วไป เพื่อให้ร้านค้าสามารถวางแผนต้นทุนได้ชัดเจนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายคงที่รายเดือน

 

ในส่วนของค่าธรรมเนียมธุรกรรม QR พร้อมเพย์เริ่มต้นที่ฟรี และค่าธรรมเนียมบัตรเริ่มต้นที่ 1.8% Beam ระบุว่าโมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อให้ร้านค้ามีต้นทุนการรับชำระเงินที่คุ้มค่า และสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้เร็วขึ้น จากการรับชำระเงินที่ครบทุกช่องทางซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย

 

สำหรับ Beam ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพฟินเทคสัญชาติไทยที่ได้รับการสนับสนุนจาก Sequoia Capital (Peak XV Partners) ระบุว่าวิสัยทัศน์ระยะยาวคือการเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบรับชำระเงินสำหรับธุรกิจในไทยและภูมิภาค โดยโมเดลรายได้หลักของบริษัทจะยังคงมาจากค่าธรรมเนียมธุรกรรม (Transaction Fees) และบริษัทยังเปิดรับความร่วมมือใหม่ๆ กับพาร์ทเนอร์ เพื่อขยายบริการทางการเงินในอนาคตด้วยเช่นกัน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising